การกระตุ้นสมอง ทำให้เกิดความจำดี
credit: www.kunkroo.com
หลายคนเชื่อว่าการที่คนเราแก่ตัวแล้วสมองก็จะเสื่อมไปด้วย ตามอายุขันธ์ที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา เรื่องนี้มีนักวิทยาศาสตร์นักชีวะวิทยาได้พิสูจน์แล้วหลายสำนัก(มหาวิทยาลัย) ปรากฏว่าตรงกันข้าม แต่ต้องมีกติกานะครับ ไม่ใช่ปล่อยไปตามธรรมชาติ
ภาพสมอง มีเนื้อสมองสองซีก รอยหยักคือที่เก็บความจำ หยักมากเก็บได้มาก
วิธีง่ายๆ ในการกระตุ้นความจำ
ดูเหมือนว่าข้อมูลใหม่จะไหลมาเทมาให้เราต้องทำความรู้จักกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนหลายคนกำลังประสบปัญหาว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชื่อเสียงเรียงนาม วันที่ หรือวิธีทำงาน เหล่านั้น จะจดจำลงในสมองได้หมดได้อย่างไร“สมอง” ที่อาจจะไม่ค่อยมีที่ว่างพอเพียงให้อัดข้อมูลใหม่ลงไปได้สักเท่าไรนัก
ดูเหมือนว่าข้อมูลใหม่จะไหลมาเทมาให้เราต้องทำความรู้จักกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนหลายคนกำลังประสบปัญหาว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชื่อเสียงเรียงนาม วันที่ หรือวิธีทำงาน เหล่านั้น จะจดจำลงในสมองได้หมดได้อย่างไร“สมอง” ที่อาจจะไม่ค่อยมีที่ว่างพอเพียงให้อัดข้อมูลใหม่ลงไปได้สักเท่าไรนัก
โชคร้ายตรงที่เราไม่มี “เอ็กซ์เทอร์นัลฮาร์ดไดรฟ์” หรือหน่วยจัดเก็บข้อมูลภายนอกอย่างที่คอมพิวเตอร์มี ถ้ามีคนเราคงถ่ายเทสิ่งที่อยู่ในสมองออกมาเก็บไว้ข้างนอกได้ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า คนเราสามารถจะกระตุ้นหรือปรับปรุงความทรงจำให้ดีขึ้นได้
เชื่อว่าการนอนกลางวันเป็นการบันทึกความจำในสมองให้ทนทาน ถ้าจะให้ดีนอนวันละ 90 นาที
วิธีช่วยจำ อย่างหนึ่งก็คือ ถ้าหากไม่อยากจะลืมสิ่งที่เรียนรู้ไปในวันนี้ ก็จงเข้านอนเสีย การได้นอนสักพัก ถ้าจะให้ดีอาจจะในราว 90 นาที จะเป็นการช่วยบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างวันขึ้นได้ ทีนี้เมื่อได้เข้านอนตอนกลางคืน สมองก็จะสร้างความทรงจำของเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้น
แต่การใช้สมองอย่างหนักกับความทรงจำระยะยาว อาจทำให้ต้องผจญกับความทรงจำที่มีต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดหลายชิ้น พบว่าความทรงจำของแต่ละคนนั้น สามารถจะปรับปรุงหรือกระตุ้นให้ดีขึ้นได้ โดยอาศัยปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง เช่น การฟังดนตรี การปรับปรุงนิสัย และการคิดมองโลกอย่างเด็กๆ ก็มีส่วนช่วยได้ไม่น้อย
มีความหวังว่า ยิ่งแก่ยิ่งฉลาด ตั้งสมติฐานไว้ก่อนว่า นักวิทยาศาสตร์ของโลก ส่วนมามีแต่คนแก่ ๆ ทั้งนั้น เช่น เซอร์ไอแซคนิวตัน อคิมิดิส กาลิเลโอ เบญจามินแฟรงคิน เอดิสัน ใครบ้างไม่แก่
นักวิทยาศาสตร์ หลายคนโดดออกมาประกาศก้องว่า ทฤษฎีเก่าที่ว่าเมื่ออายุ มากขึ้น ศักยภาพของ สมองมนุษย์ ์จะลดลง เป็นความคิดล้าสมัย ความจริงคือ ตรงกันข้ามสิไม่ว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ความจริงว่าไม่เพียงแต่เราจะไม่สูญเสีย เซลล์สมองเมื่อ สูงวัยขึ้น เท่านั้น แต่ถ้ามีการกระตุ้นที่ถูกต้อง เราสามารถพัฒนาสมองให้ ฉลาดและคิดได้เร็วขึ้น เราอาจจะ กลายเป็นนักเขียนและเกิดไอเดียแปลกใหม่ มากขึ้นเมื่อแก่ตัวลง ทุกอย่างอยู่ที่ว่า จะ สร้างเซลล ์สมองได้อย่างไร เซลล์แต่ละเซลล์ทำงานเป็นระบบโดยตัวมันเอง แต่ก็ พยายามเพิ่ม ศักยภาพ ของตัวเอง ด้วยการเชื่อมต่อ กับเซลล์ข้างเคียง
นักวิทยาศาสตร์ หลายคนโดดออกมาประกาศก้องว่า ทฤษฎีเก่าที่ว่าเมื่ออายุ มากขึ้น ศักยภาพของ สมองมนุษย์ ์จะลดลง เป็นความคิดล้าสมัย ความจริงคือ ตรงกันข้ามสิไม่ว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ความจริงว่าไม่เพียงแต่เราจะไม่สูญเสีย เซลล์สมองเมื่อ สูงวัยขึ้น เท่านั้น แต่ถ้ามีการกระตุ้นที่ถูกต้อง เราสามารถพัฒนาสมองให้ ฉลาดและคิดได้เร็วขึ้น เราอาจจะ กลายเป็นนักเขียนและเกิดไอเดียแปลกใหม่ มากขึ้นเมื่อแก่ตัวลง ทุกอย่างอยู่ที่ว่า จะ สร้างเซลล ์สมองได้อย่างไร เซลล์แต่ละเซลล์ทำงานเป็นระบบโดยตัวมันเอง แต่ก็ พยายามเพิ่ม ศักยภาพ ของตัวเอง ด้วยการเชื่อมต่อ กับเซลล์ข้างเคียง
ระบบประสาทจะเชื่อมกันกับอวัยวะอื่นด้วย ไซแนปซ์(synapses )แบบต่าง ๆ
โดยแตกกิ่งก้าน สาขาออกไปรอบ ด้านเหมือนเครือข่าย ซึ่งการเชื่อมต่อนี้เรียกกันว่า synapses และจะโยงใย ไปยังเซลล์อื่น ๆ จุดเชื่อมต่อแต่ละจุดมีลักษณะเหมือน ปากปลาหมึก ทำหน้าที่จูจุ๊บ ข้างในบรรจุด้วยสารเคมีต่าง ๆ หลายพันตัว
เมื่อเราคิดหรือทำอะไร จะทำให้เกิดการกระตุ้นสารเคมีเหล่านี้ ที่มีภาวะแบบ แม่เหล็กไฟฟ้า การกระตุ้นดังกล่าวจะส่งผ่านไปยังจุดเชื่อมต่อของเซลล์ใดเซลล์หนึ่ง และส่งสารข้ามไปยังจุดเชื่อมต่อ ของเซลล์ข้างเคียงที่ใช้ปากจูจุ๊บรับข่าวสารไป เคยคิดกันว่าความสามารถของสมองคนเราถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด จะฉลาดหรือ โง่แต่เกิด ก็แล้วแต่ แต่การค้นพบล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ยิ่งกระตุ้นสมองมากเท่าไหร่ จุดเชื่อมต่อ ของเซลล์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งหมายถึงแต่ละเซลล์จะสามารถประมวล สัญญาณหรือ ส่งซิกแนลได้หลายทิศทางมากขึ้น และรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม การกระตุ้น สมอง ยังให้ผลข้างเคียงในทางบวกอีกด้วย และส่งผลกระทบ ต่อชีวิตด้านอื่น ๆ ของคุณได้ เพราะเซลล์สมองทำงานร่วมกัน การกระตุ้นเซลล์บางเซลล์ให้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ช่วยให้สมองทำงานเร็วขึ้น ดังนั้นการฝึกเล่นเปียโนหรือเริ่มหัดกอล์ฟ อาจทำให ้คุณคิดคำศัพท์เร็วขึ้น เวลาเล่นเกมอักษรไขว้ หรือพูดต่อหน้าผู้คน หรือแม้แต่กระทบ ทักษะด้านอื่น ๆ ที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเลย
เรามาเริ่มกระตุ้นกันเลย
ฆราวาสออกกำลังกาย และกำลังสมอง
เรามาเริ่มกระตุ้นกันเลย
ฆราวาสออกกำลังกาย และกำลังสมอง
พระออกบิณฑบาตร เป็นการโปรดสัตว์และออกกำลังกายด้วย พระพุทธเจ้าทรงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและมีทางแก้อย่างไร พุทธบัญญัติทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ เป็น 1.พระสุตตันตะ 12,000 พระธรรมขันธ์ 2.พระวินัย 12,000 พระธรรมขันธ์ และ3.พระอภิธรรม 24,000 พระธรรมขันธ์ ล้วนเป็นหลักการดำรงชีวิตตามธรรมชาติที่ชาญฉลาด ใครศึกษาพระไตรปิฎก จะเข้าใจดี
พระออกบิณฑบาตร เป็นการออกกำลังกายและกำลังสมอง
ออกกำลังบำรุงสมองได้อย่างไร ไม่เพียงต้องบริหารจิตใจเพื่อให้สมองเฉียบคมเสมอเท่านั้น การออกกำลังทาง ร่างกายก็สำคัญไม่แพ้กัน แพทย์พบว่าคนที่ออกกำลังสม่ำเสมอจะทำคะแนน ได้ดีในการทดสอบจิตใจ สมองก็คือกล้ามเนื้อส่วนหนึ่ง เมื่อคุณออกกำลังก็ทำให้ สมองสามารถจัดการปัญหาซับซ้อนและทำงานได้มากขึ้น อาจเป็นเพราะว่าการ ออกกำลังอย่างต่อเนื่องเพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านออกซิเจนไปทั่วร่างกาย นอกจากนี้ร่างกายท ี่ออกกำลังเป็นประจำ จะมีปริมาณเลือดมากกว่า ปกติครึ่งลิตร สำหรับช่วยขัดหาออกซิเจนเพื่อทำงาน การออกกำลังสม่ำเสมอจึงช่วยได้ดี
โมสาร์ทเพิ่มไอคิวให้คุณได้อย่างไร
นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อกันแล้วว่า การฟังดนตรีบางชนิด สามารถทำให้ เราฉลาดขึ้นได้ นักฟิสิกส์ได้ทำการศึกษาปฏิกิริยาตอบโต้ ของสมองระหว่าง ทำงานที่ให้เหตุผลทางนามธรรม และพบรูปแบบของปฏิกิริยาที่คล้ายกับดนตรี เขาทดลองต่อไปว่าหาก จัดการฝึกฝน ด้านดนตรี เขาทดลองต่อไปว่า หากจัดการ ฝึกฝนด้านดนตรีแก่เด็ก ๆ จะปรับปรุง ทักษะ
Wolfgang Amadeus Mozart เป็นนักดนตรีเอกของโลก เชื่อว่าเพลงที่เขาแต่งสามารถเรียงแม่เหล็กสมองมนุษย์ใหม่ได้
การให้เหตุผลของพวกเขา ได้หรือเปล่า ผลเบื้องต้นออกมาทางบวก คือหลังจาก 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน ของการเล่าเรียน ทักษะ การให้เหตุผล ของเด็กพัฒนาขึ้นมาก จากผลที่ได้นี้ นักวิจัยตัดสินใจ วิเคราะห์ว่า จะเกิดอะไรขึ้น กับผู้ใหญ่เมื่อได้ฟังดนตรี นักวิจัยขอให้อาสาสมัคร ฟังบทเพลง 2 ชิ้น คือโซนาต้าบรรเลงเปียโนของโมสาร์ท และเทปเพลงฟังสบาย ๆ สร้างบรรยากาศอีกม้วน กับให้นั่งอยู่ในความเงียบ จากนั้นให้ อาสาสมัคร ทำแบบทดสอบการ ให้เหตุผล ผลที่ได้ระบุว่าเพลงของโมสาร์ท ช่วยให้พวกเขา คิดถูก ต้องและรวดเร็วขึ้น และการทดสอบอีกหลายชิ้นที่แสดง ให้เห็นว่าเพลงของโมสาร์ทมีผลกระทบที่ดีที่สุด ต่อทักษะการให้เหตุผล โดยนักวิทยาศาสตร์อ้างว่าเราเกิดมาพร้อม รูปแบบของ ธรรมชาติ บางอย่างในสมองของเราที่สามารถรู้สึกตื่นเต้นได้ และเมื่อเราได้ฟัง ดนตรีของโมสาร์ท ทำให้เราพอใจ เพราะรูปแบบธรรมชาตินั้นรู้สึกตื่นเต้นอย ู่ในสมองของเราเมื่อเรา ได้ฟังดนตรีของเขา ป้อนจินตนาการให้โลดแล่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น