12 วิธีเพื่อความจำเป็นเลิศ
credit: www.lingothailand.com
ไม่รู้เป็นยังไง เรื่องสำคัญ ๆ ในชีวิตที่อยากจำกลับลืมทุกที แต่ด้วยเคล็ดลับ 12 ประการต่อไปนี้จะช่วยหยุดความจำที่ชอบเล่นไม่ซื่อกับคุณ คราวนี้ คุณก็ไม่ต้องพึ่งกระดาษโน้ตช่วยเตือนความจำอีกต่อไป
ประสิทธิภาพในด้านความจำจะค่อย ๆ ลดลงเมื่ออายุย่างเข้า 25 นั่น เพราะเซลล์ความจำเริ่มเสื่อมลงเรื่อย ๆ ปีละ 1% และยิ่งเสื่อมเร็วมากขึ้น เมื่ออายุเข้า 50 รู้แล้วก็อย่าตื่นตระหนก เพราะมีวิธีมากมายที่จะช่วยให้คุณมีความจำดีเยี่ยม ทีนี้จำได้แม่นยำเลยว่าวางกุญแจรถไว้ตรงไหน
ความจำทำงานอย่างไร
ความจำในสมองประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกเรียกว่าความจำระยะยาวและความจำระยะสั้น "ความจำระยะยาวเป็นที่ที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ในชีวิต ข้อมูลเหล่านี้ยากที่จะถูกทำลาย หรือลบเลือนไป" โดมินิก โอเบรียน แชมป์โลกด้านความจำ 8 สมัยซ้อนอธิบาย "ความจำระยะยาวประกอบไปด้วย procedural memories เป็นความจำที่เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขี่จักรยาน และ episodic memories เป็นความจำที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเอง เช่น ช่วงเวลาให้กำเนิดบุตร"
ความจำระยะสั้นเป็นความจำช่วงสั้น ๆ เช่น การจำเบอร์โทรศัพท์สามารถจำได้นานพอที่จะกดเบอร์ได้ หรือจำอาหารที่กินตอนเช้าได้ โดยเราจะบันทึกข้อมูลนั้นลงบนพื้นที่ว่างในสมองทันที ดังนั้นถ้าต้องการเก็บข้อมูลนั้นไว้ในสมองให้นานขึ้น คุณต้องถ่ายโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังส่วนที่เป็นความระยะยาว ซึ่งคุณสามารถเสริมสร้างศักยภาพในการเข้าถึงความจำระยะยาว และเรียกข้อมูลนั้นกลับมาใช้ได้
บริหารสมอง
ความจำเสื่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อคนเราอายุมากขึ้น คุณสามารถเสริมสร้างความจำให้จดจำข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยการบริหารสมอง "ทุกครั้งที่ได้รับข้อมูลใหม่ ส่วนของเซลล์ความจำที่มีลักษณะปลาหมึกยักษ์จะยื่นออกมา และสร้างโครงข่ายใหม่ทำให้จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้นทุกครั้งที่เรียนรู้" โดมินิกอธิบาย ดังนั้นเมื่อหยุดให้สมองจดจำข้อมูลใหม่ ๆ เซลล์ความจำก็จะหยุดสร้างโครงข่าย และข้อมูลเหล่านี้ก็จะหายไปในไม่ช้าด้วย "เมื่ออายุมากขึ้น เราผ่านโลกมามากขึ้น และคุ้นเคยกับสิ่งต่าง ๆ เป็นอย่างดี ทำให้เราหยุดท้าทายสมองตัวเอง"
ดังนั้นอย่าให้ร่างกายและสมองหยุดนิ่ง ควรทำตัวให้กระตือรือร้นและว่องไว การศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์สมองได้ทำงานอย่างเต็มที่
หรือฮอร์โมนเป็นตัวการ
ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดต่ำลง มีส่วนทำให้ความจำลดความแม่นยำลง นักวิจัยในแคนาดาได้ทดสอบความจำของผู้หญิงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงภายหลังตัดมดลูกทิ้ง พบว่าความจำแย่กว่าผู้หญิงที่ได้รับฮอร์โมนทดแทนในวัยหมดประจำเดือน (hormone replacement therapy-HRT) เชื่อกันว่า HRT ช่วยป้องกันความจำเสื่อที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไคลฟ์ เอเวอร์แห่ง the Alzheimer’s Society กล่าว "ผู้หญิงที่ได้รับ HRT จะลดความเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์เมื่อเข้าสู่วัยชรา"
หากไม่อยากพึ่งวิธี HRT คุณก็สามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ โดยการกินอาหารที่มีสารของพืช ซึ่งมีคุณลักษณะเหมือนเอสโตรเจน ได้แก่ อาหารจากถั่วเหลือง ลินสีด และถั่ว pulse (คือถั่วที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ สะสมพลังงานในรูปของคาร์โบไฮเดรตและเมล็ดมีแป้งสูง เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ฯลฯ) เป็นแหล่งไฟโตเอสโตรเจน
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร
คนที่ขี้หลงขี้ลืมไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด อย่าเพิ่งตื่นตกใจ ถ้าคุณลืมโน่นลืมนี่เป็นประจำ "ความจำเสื่อมเล็กน้อยไม่ใช่ปัญหา ถ้าไม่ได้เป็นถาวรหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดจี๊ด ๆ หรือมีความผิดปกติทางสายตา" มาร์ค แอตคินสัน ผู้เชี่ยวชาญของ Health Plus กล่าว "อย่าเพิ่งสันนิษฐานว่าตัวเองเป็นโรคความจำเสื่อม เพราะอาการที่เกิดขึ้นอาจมีสาเหตุมาจากการขาดเกลือแร่และวิตามิน หรือเป็นผลจากยา ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด"
ความจำแย่ ทำยังไงดี
ถ้าคุณหลงลืมเป็นประจำเช่น จำไม่ได้ว่าวางกุญแจรถไว้ที่ไหน คำพูดติดอยู่ที่ปาก แต่คิดไม่ออก ลืมของไว้ที่ร้าน ต้องย้อนกลับไปเอา หรือลืมชื่อคนอยู่เป็นประจำ เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณต้องเสริมสร้างความจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคสมองเสื่อมตามมา "ตามธรรมชาติเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะอ่อนแอลง ไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนก่อน สมองก็เช่นกัน โดยเฉพาะอาการหลงลืมจะส่งผลต่อความจำระยะสั้น" ดร.โจ อิดดอน ผู้เชี่ยวชาญด้านความจำกล่าว ข่าวดีคือคุณสามารถเสริมสร้างความจำให้เป็นเลิศไทยด้วย 12 วิธีต่อไปนี้
1.เล่นเกม บริหารสมองและเสริมสร้างความจำด้านสายตา โดยการจ้องวัตถุชิ้นหนึ่งนานประมาณ 2-3 นาที สมมติว่าเป็น แจกันดอกไม้ ให้จดจำแม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นวาดสิ่งที่คุณเห็นลงบนกระดาษ (วาดไม่สวยไม่เป็นไร) คราวนี้หวนกลับไปมองที่แจกันอีกครั้ง ดูว่ามีรายละเอียดใดที่คุณวาดตกหล่นไป "ฝึกเช่นนี้เป็นประจำจะช่วยพัฒนาความจำระยะสั้น" โดมินิกบอก
2.ทำงานอดิเรก "มีหลักฐานระบุว่าคนที่ชอบออกไปพบปะผู้คน หรือไปเที่ยวชมสิ่งที่น่าสนใจนอกบ้าน และทำงานอดิเรกเช่น เล่นครอสเวิร์ด ถัดนิตติ้ง เล่นไพ่บริดจ์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทางเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน (brain connections) ลดโอกาสการเป็นโรคอัลไซเมอร์ลงถึง 1 ใน 3" ไลคฟ์ เอเวอร์ แห่ง the Aizheimer’s Society กล่าว
3.เคี้ยวหมากฝรั่ง คุณอาจไม่ชอบที่หมากฝรั่งติดหนึบตามทางเท้า แต่การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยให้ความจำดี มหาวิทยาลัยนอร์ธอัมเบรียพบว่า ความสามารถในการจดจำบัญชีคำศัพท์ของอาสาสมัครดีขึ้น 1 ใน 3 เมื่อให้เคี้ยวหมากฝรั่ง
4.ทานวิตามิน อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ ซี และอี เช่น ส้มและพริกหวานช่วยให้ความจำดี "อนุมูลอิสระที่อยู่รอบตัวเรา จะไปทำลายเซลล์ประสาทในสมอง ทำให้ความจำเริ่มเลอะเลือน แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วย การกินแอนตี้ออกซิแดนท์เช่น วิตามินเอ ซี และอี" ดร.มาร์ค แอตคินสัน ผู้เชี่ยวชาญของ Health Plus กล่าว
5.เกมจดจำชื่อ เมื่อได้รับการแนะนำให้รู้จักใครสักคน แค่ผ่านไป 5 นาที คุณลืมชื่อคนคนนั้นแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ ลองทำตามเคล็ดลับของโดมินิก โอเบรียน "คุณต้องเชื่อมโยงชื่อคนกับใบหน้า สมมติคุณเจอคนคนหนึ่งชื่อบิล เพรสตัน และเมื่อคุณเจอเขา คุณคิดว่าเขาคล้ายเซลส์แมนขายรถ (ไม่เป็นไรถึงเขาจะไม่ใช่เซลส์แมนจริง ๆ เพราะสมองของคุณได้ทำการเชื่อมโยงแล้ว) เชื่อมโยงชื่อต้นของเขากับบิล คลินตัน นึกภาพบิล คลินตันอยู่ในโชว์รูมรถ จากนั้นเชื่อมโยงนามสกุลของเขา โดยตัดคำว่า "เพรส" ออกจากคำว่าเพรสตัน นึกภาพบิล คลินตันกำลังเพรสอัพส์ (press-ups) หรือวิดพื้น เมื่อคุณพบเขาในครั้งต่อไป สมองของคุณจะคิดถึงภาพเซลส์แมนขายรถ และภาพโชว์รูมรถที่มีบิล คลินตันวิดพื้นอยู่ ทีนี้คุณก็จำชื่อของเขาได้แล้ว
6.ทานใบแป๊ะก๊วย โดมินิก โอเบรียนทานใบแป๊ะก๊วยเป็นประจำ เวลาเตรียมตัวก่อนชิงแชมป์ความจำ เขาเป็นเจ้าของสถิติโลก โดยสามารถจดจำไพ่ได้ทั้งหมด 54 สำรับหลังจากดูไพ่เพียงครั้งเดียว มาร์ค แอตคินสันแนะให้ทานอาหารเสริมจำพวกใบแป๊ะก๊วยวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 40-60 มิลลิกรัม
7.การรักษาแผนโบราณ โสมเป็นยาจีนที่ใช้ชะลอความเสื่อมของเซลล์มานานหลายศตวรรษ อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยว่า โสมช่วยฟื้นฟูความจำของคนป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่มีอาการสมองเสื่อมให้ดีขึ้น นั่นเพราะโสมช่วยกระตุ้นการสร้างสารเคมีบางอย่างในสมอง ที่ช่วยฟื้นฟูความจำ
8.เทคนิคการจำตัวเลข กี่ครั้งแล้วที่บัตรเอทีเอ็มถูกเครื่องกลืนไป เพราะจำรหัสผิด โดมินิก โอเบรียนแนะให้ใช้ภาพแทนตัวเลข "เช่น สมมติรหัสเอทีเอ็มของคุณคือเลข 2581 ให้นึกเรื่องราวในธนาคาร หงส์ (2) ตัวหนึ่งเข้าวิ่งไล่งู (5) เข้าไปในธนาคาร พนักงานธนาคารคือสโนว์แมน (8) ถือเสาธง (1) โบกไปมา ยิ่งเรื่องที่จินตนาการเหลวไหลเท่าไร คุณก็ยิ่งจำได้มากขึ้นเท่านั้น" โดมินิกบอก คุณสามารถนำวิธีนี้มาประยุกต์ใช้กับการจำเบอร์โทรศัพท์ เบอร์โรงพยาบาล และหมายเลขกรมธรรม์
9.กินน้ำมันปลา ปลาเป็นอาหารบำรุงสมอง การศึกษาของศูนย์การแพทย์เซนต์ลุค ชิคาโกพบว่าการกินน้ำมันปลา (เช่น ปลาแมคเคอเรล, ซาร์ดีน, แซลมอนและปลาทูน่าสด) ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์
10.ไปซูเปอร์มาร์เก็ต โยนใบรายการซื้อของทิ้งไป หันไปใช้วิธีจำของที่ต้องซื้อโดยนึกภาพของที่จะซื้อเป็นการเดินทาง โดมินิก โอเบรียนอธิบาย "นึกภาพการเดินทางที่คุ้ยเคยในหัว อาจเป็นการเดินไปทำงานหรือไปห้องสมุด นึกภาพจุดแวะ 10 จุดระหว่างการเดินทาง จุดแวะแต่ละจุดคือภาพของที่ต้องซื้อ ตัวอย่างเช่น ขนมปัง 1 แถวกำลังยืนคอยอยู่ที่ป้ายรถเมล์ และมีชามส้มตั้งอยู่บนทางม้าลาย ทีนี้เมื่อคุณเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต ให้นึกภาพการเดินทางในหัวของคุณ เพื่อจดจำรายการสิ่งของที่ต้องซื้อ เริ่มจากของ 10 อย่างก่อน เมื่อคุณจดจำได้ดีขึ้นแล้ว จึงค่อยเพิ่มรายการของให้มากขึ้น
11.นอนให้เพียงพอ นักวิทยาศาสตร์ในเบลเยี่ยมค้นพบว่า การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้สมองสามารถเก็บข้อมูลใหม่ ๆ ไว้ในความจำ เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในอนาคต ดังนั้นควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
12.สมุนไพรช่วยได้ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นโรสแมรีช่วยให้คุณสามารถจดจำสิ่งที่ลืมไปแล้ว ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ธอัมเบรียพบว่า คนที่ดมกลิ่นโรสแมรีจะรู้สึกกระฉับกระเฉงว่องไว สามารถจดจำเรื่องราวได้ต่าง ๆ ได้มาขึ้น 15% ลองหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโรสแมรี 2-3 หยดลงในอ่างอาบน้ำ หรือจะจุดตะเกียงน้ำมันหอมระเหยก็ได้
ผลการศึกษาอีกอย่างพบว่า อาสาสมัครที่รับประทานแคปซูลสมุนไพรเลมอนบาล์ม สามารถทำแบบทดสอบความจำทางคอมพิวเตอร์ได้คะแนนดีกว่าคนที่ไม่ได้ทาน
ถ้าคุณสงสัยว่าตัวเองขี้หลงขี้ลืมมากผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเป็นโรคต่อไปนี้หรือไม่ :
สมองเสื่อม เป็นโรคทางสมองอย่างหนึ่ง เกิดจากการที่เซลล์สมองถูกทำลายและสมองตายเร็วกว่าปกติ โดยความจำระยะสั้นมักได้ผลกระทบก่อน ดังนั้นคุณจะลืมชื่อคนในครอบครัว เพื่อนฝูง และภารกิจที่ทำเป็นประจำทุกวัน
โรคอัลไซเมอร์ เป็นสาเหตุให้เกิดโรคสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด คาดกันว่าในประเทศอังกฤษมีคนเป็นโรคนี้มากถึง 5 แสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น