15 ผลดีต่อร่างกาย เกิดขึ้นได้แค่เลิกบุหรี่
credit: www.kapook.com
เลิกบุหรี่แล้วดียังไง ? คำถามที่สิงห์อมควันน่าจะสงสัยกันอยู่ไม่น้อย แต่อยากบอกจริง ๆ ค่ะว่า เลิกบุหรี่ได้เมื่อไหร่ ร่างกายจะแจ่มใส พร้อมด้วยสุขภาพดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะ
ปัจจุบันมีจำนวนประชากรที่สมัครใจเป็นสิงห์อมควันมากขึ้น เหมารวมทั้งเพศชาย และเพศหญิงเลยทีเดียว ซึ่งก็ทำให้อัตราผู้ป่วยโรคปอด และมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับใครที่กำลังอยากเลิกบุหรี่อยู่ แต่เกรงว่าใจจะไม่ถึงพอ จนท้อกลางทางซะก่อน วันนี้เราได้หยิบยกข้อมูลสุขภาพหลังเลิกบุหรี่จากเว็บไซต์ Reader’s digest มาให้ศึกษากันพลาง ๆ และรับรองเลยว่า นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป คุณจะอยากเลิกสูบบุหรี่มากขึ้นเป็นเท่าตัว ก็แหม เลิกสูบบุหรี่แล้วสุขภาพดีขึ้นตั้ง 15 อย่างนี่เนอะ เป็นใครก็กำลังใจมาทั้งนั้นแหละ
1. เลิกบุหรี่แล้วเลือดไหลเวียนปรู๊ดปร๊าดสุด ๆ
เชื่อไหมคะว่า หลังจากหยุดสูบบุหรี่เพียงแค่ 20 นาที ก็เพียงพอให้ร่างกายหมุนเวียนเลือดได้อย่างสะดวกขึ้นมากแล้วล่ะ หนำซ้ำเลือดยังไหลเวียนปรู๊ดปร๊าดดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยด้วยนะ
2. ชีพจรและอัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
ภายหลังจากหยุดสูบบุหรี่ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ จะสังเกตได้เลยว่า อัตราการเต้นของชีพจร และหัวใจของคุณจะกลับสู่จังหวะปกติ ซึ่งก็เป็นผลจากเลือดไหลเวียนได้อย่างสะดวกนั่นเอง อีกทั้งกับหญิงตั้งครรภ์ จะสามารถจับชีพจรของลูกน้อยได้เป็นปกติดีด้วยนะคะ
3. ออกซิเจนในเลือดมากขึ้น
เพียงแค่หยุดสูบบุหรี่ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ก็ช่วยลดจำนวนคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดลงได้มาก คราวนี้เลือดก็จะมีปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปขับเคลื่อนเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างปกติ โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ หยุดสูบบุหรี่ก็เท่ากับเพิ่มออกซิเจนให้ลูกน้อยในครรภ์หายใจสะดวกมากขึ้นไปด้วย
ในเมื่อเลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นปกติมากขึ้น ก็แน่นอนว่าหัวใจจะทำงานได้อย่าเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นแค่หยุดสูบบุหรี่เพียง 24 ชั่วโมง ก็เท่ากับลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้แล้ว
5. เลิกสูบ 2 วัน ไม่ต้องหวั่นนิโคติน
ถ้าตัดสินใจเลิกบุหรี่ได้ 2 วันเต็ม ๆ รับรองเลยว่าจำนวนสารนิโคตินในร่างกายของคุณจะถูกกำจัดจนสิ้นซาก ไร้สารพิษจากบุหรี่ตกค้างใด ๆ ในร่างกายอีกต่อไป
6. ประสาทรับรส และกลิ่นจะเป็นปกติ
นอกจากสารนิโคตินจะถูกกำจัดไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว แค่ 2 วันที่หย่าขาดจากบุหรี่ คุณจะรู้สึกได้เลยว่า ร่างกายสามารถรับกลิ่นและรสชาติของอาหารได้มากกว่าที่เคย
7. หายใจได้เต็มปอด
ในเคสที่สูบบุหรี่จัดมานาน อาจจะเข้าไม่ถึงความรู้สึกหายใจโล่ง ๆ โปร่ง ๆ ไปทั้งปอด แต่หลังจาก 3 วันที่คุณตัดสินใจหันหลังให้กับบุหรี่ คุณจะมีโอกาสได้กลับมาหายใจอย่างเต็มปอดอีกครั้ง บ่งบอกถึงสุขภาพปอดที่ดีขึ้น รวมทั้งอาการไอค่อกแค่กเนื่องจากปอดมีสารพิษตกค้างที่เคยเป็นบ่อย ๆ ก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่มีโอกาสได้สร้างความรำคาญอีกต่อไป
8. ความดันเลือดกลับสู่สภาวะปกติ
สิงห์อมควันส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิต อันเนื่องมากจากสารพิษจากบุหรี่เข้าไปขัดขวางการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย แต่เมื่อไรที่คุณเลิกบุหรี่ได้สัก 1 สัปดาห์เต็ม เมื่อนั้นความดันโลหิตจะลดลงสู่สภาวะปกติ เป็นสัญญาณที่ดีต่อสุขภาพอันน่าอิ่มเอมใจ
9. ปอดทำงานเต็มประสิทธิภาพ สีผิวดูขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากหยุดสูบบุหรี่ได้ 3 เดือนเต็ม ปอดจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 39% อีกทั้งอาการหายใจสั้น ๆ ก็จะหายไป แถมสีผิวที่เคยหมองคล้ำก็จะกลับมาขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเชียวล่ะ
10. อาการไอเรื้อรังจะหายไป
อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าการสูบบุหรี่เป็นการทำร้ายปอดอย่างรุนแรง สิงห์อมควันบางรายเลยต้องเผชิญกับโรคไอเรื้อรังจนรำคาญตัวเองกันไปเป็นแถบ ๆ แต่ถ้าอยากหายจากอาการไอเรื้อรังเหล่านี้ ลองเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-9 เดือนดูสิคะ รับรองเลยว่าอาการไอเรื้อรังที่เป็นอยู่จะหายหน้าหายตาไป ไม่กลับมากวนใจอีกเลย
11. เลิกสูบได้ 1 ปี งานนี้ไกลโรคหลอดเลือดหัวใจ
ถ้าใจแข็งพอและเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด ภายใน 1 ปีนับจากที่โบกมือลาบุหรี่อย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่สุขภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเท่านั้น แต่คุณจะได้สิทธิ์บอกลาโรคหลอดเลือดหัวใจไปในคราวเดียวกันเลยล่ะจ้า
12. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งสารพัดชนิด
ภายในระยะเวลา 5 ปีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบุหรี่อีกเลย คุณสามารถวางใจกับความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด, มะเร็งหลอดลม, มะเร็งในช่องปาก และมะเร็งลำไส้ได้เลยค่ะ
ไม่ว่าคุณจะสวมบทเป็นสิงห์อมควันมานานกี่ปี หรือสูบจัดแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ากลับลำเลิกสูบบุหรี่ได้ทัน ภายในระยะเวลา 5-10 ปีนับจากตัดขาดจากบุหรี่ สุขภาพของคุณจะกลับเป็นปกติ เหมือนเป็นคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน ซึ่งก็หมายความว่า ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคอัมพาต และโรคหัวใจก็จะเท่าความเสี่ยงในคนปกติทั่วไปด้วย
14. เซลล์มะเร็งจะฝ่อ
หลังจากโบกมือลาบุหรี่นานนับ 10 ปี เซลล์เนื้อร้ายที่อาจจะกลายเป็นมะเร็งในอนาคต ซึ่งเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ที่คุณเริ่มสูบบุหรี่จะฝ่อตัวลง รวมทั้งเซลล์มะเร็งปอด, มะเร็งหลอดลม, มะเร็งในช่องปาก, เซลล์มะเร็งในไต และมะเร็งลำไส้จะไม่ถูกกระตุ้นให้เกิดโรคอีกต่อไป
15. ความเสี่ยงโรคมะเร็งลดลงเหลือเทียบเท่าคนไม่สูบบุหรี่
อย่างที่รู้กันว่า คนสูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงโรคมะเร็งสูงกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ แต่ถ้าคุณเลิกบุหรี่ให้ได้อย่างเด็ดขาด ไม่เพียงแต่ช่วยหยุดการกระตุ้นเซลล์มะเร็งในร่างกายเท่านั้น ทว่ายังช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งให้คุณอย่างสิ้นเชิง กลับกลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายเทียบเท่าคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น