วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

10 คำถามพิชิต สมัครสอบสัมภาษณ์

10 คำถาม

พิชิตสมัครสอบสัมภาษณ์ 



credit: www.manpower.com


10 คำถาม – คำตอบ นี้จะเป็นเพียงแนวทาง ผู้สัมภาษณ์เพียงอยากรู้จักความเป็นตัวคุณ คำตอบที่ตอบออกไปจะสะท้อนถึงความคิด ความอ่าน และทัศนคติต่างๆ ของตัวคุณเอง
     สัมภาษณ์งานแต่ละที “เอ๋ทำไม ไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย” “คำตอบที่เราตอบไปมันไม่ได้ดีหรอ” บทความนี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณเข้าใจกับ 10 คำถามยอดฮิต ที่แต่ละบริษัทต้องถามกัน
    
     10 คำถาม – คำตอบ นี้เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น คำตอบที่ตอบออกไปไม่มีทั้งถูกและผิด เพราะเหล่าคำถามแต่ละข้อนั้น ผู้สัมภาษณ์เพียงอยากรู้จักความเป็นตัวคุณให้มากกว่าเรซูเม่เพียงแค่กระดาษ 1 แผ่น ไม่ว่าคุณจะตอบแบบไหนล้วนสะท้อนถึงความคิด ความอ่าน และทัศนคติต่างๆของตัวคุณเอง การตอบแต่ละข้อควรจะตอบในแบบฉบับความเป็นตัวคุณที่สุด ไม่ควรตอบอะไรที่แสดงถึงโอ้อวดเกินไป หรือ มีความมั่นใจเกินไป 
สิ่งสำคัญทุกครั้งก่อนการไปสัมภาษณ์งาน คุณควรที่จะมีการเตรียมพร้อมและซักซ้อมให้มากที่สุด เพราะเมื่อเจอสถานการณ์จริงคุณจะได้รับมือกับการควบคุมอารมณ์ ความตื่นเต้นและความประหม่าของตัวคุณเองที่จะเกิดขึ้นได้  “การเตรียมตัวที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งเสมอ....”
     1) เล่าอะไรมาคร่าว ๆ เกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังหน่อย...
     คำถามนี้ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ต้องการฟังประวัติของคุณตั้งแต่เข้าเรียนจนจบมหาวิทยาลัย แต่ผู้สัมภาษณ์อยากจะรู้เพียงว่าเมื่อคุณเรียนจบมาแล้วและเริ่มทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง สิ่งที่คุณได้รับจากบริษัทเดิมมีอะไรบ้าง 
     คำถามนี้คุณควรใช้เวลาตอบเพียง 2 -3 นาที ตอบแบบกระชับ ให้ได้ใจความที่สุด พร้อมยกตัวอย่างประกอบ เช่น “หลังจากเรียนจบด้านการตลาด และเริ่มทำงานกับบริษัทการตลาดแห่งหนึ่ง ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานกันเป็นทีม ก่อนการทำงานทุกครั้งต้องวางแผนอยู่เสมอ และ ต้องแข่งขันกับเวลาที่จำกัดอยู่เสมอ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สิ่งเหล่านี้ล้วนสอนผมมา จึงทำให้ผมมักจะได้รับมอบหมายดูแลงานโปรเจคใหญ่อยู่เสมอ”  
     แต่ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ ไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน คุณสามารถพูดถึงกิจกรรมนักศึกษาที่คุณเคยทำมาได้เหมือนกัน

     2) ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่า
     ควรตอบด้วยความเป็นจริงให้มากที่สุด สั้นๆ กระชับ ให้ได้ใจความ พร้อมกับเหตุผลประกอบ และถ้าการออกจะที่เก่ามันเลวร้ายมากๆ คุณก้อไม่ควรจะบอกกับผู้สัมภาษณ์งาน อย่าลืมว่าผู้สัมภาษณ์อาจขออนุญาตติดต่อกลับบริษัทเก่าเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้น 
สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงที่สุดสำหรับการตอบคำถามนี้คือ การวิจารณ์ที่ทำงานและเจ้านายเก่า เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำ
ให้ภาพลักษณ์ของคุณดูแย่ และนั่นหมายถึงโอกาศที่คุณจะได้งานนี้ย่อมจบลงเช่นกัน
     3) คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
     ก่อนจะเข้ามาสัมภาษณ์ คุณจำเป็นที่ต้องทราบและเข้าใจในข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับข้องกับตัวบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ประวัติความเป็นมาขององค์กร วัฒนธรรม วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์องค์กร รวมถึงตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถค้นหาได้ตามหน้าเว็ปไซค์ของบริษัทนั่นเอง  คุณอาจจะโทรเข้ามาสอบถามกับทางประชาสัมพันธ์ของบริษัทนั้น เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตัวบริษัท  และถ้ามีเพื่อนๆที่ทำอยู่ก้อสามารถสอบถามข้อมูลได้เหมือนกัน
     การที่การที่คุณได้มีเตรียมตัวหาข้อมูลก่อนไปสัมภาษณ์ มันแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณตั้งใจที่จะเขามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้
     4) ทำไมคุณถึงมาสมัครงานกับบริษัทเรา
     คำถามนี้จะเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ ถ้าคุณได้มีการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวองค์กรมาพอสมควร การตอบคำถามทุกครั้งควรตอบอย่างมีเหตุมีผล เช่น “ตอนที่ผมได้เรียนอยู่ และได้ทราบว่าจากรุ่นพี่เกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ที่ได้เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่ ได้เข้าทำงาน ซึ่งคิดว่าเป็นโอกาศที่ดี ที่ผมจะได้เรียนรู้ และเพิ่มความสามารถให้กับตัวผม”
“ช่วงที่ผมได้ทำงานบริษัทเก่าอยู่ ผมได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้ที่ได้เปิดโอกาสให้กับพนักงานทุกคนพิสูจน์ความสามารถ และโปรโมตตัวเอง เพื่อเลื่อนขั้นได้ครับ”
     5) ตามความเข้าใจของคุณ คิดว่าตำแหน่งนี้ต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง
     คุณควรทำการบ้านก่อนมาสัมภาษณ์ด้วยการอ่านรายละเอียดของตำแหน่งงานและคุณสมบัติต่างๆที่ทางบริษัทต้องการ ทำความเข้าใจกับมัน ตอบให้สั้นและกระชับใจความ สิ่งสำคัญก่อนตอบต้องมั่นใจว่าเข้าใจ ถ้าไม่แน่ใจส่วนไหนไม่ต้องกลัวที่จะถาม อาจตั้งคำถามกลับในทำนองว่า เข้าใจตำแหน่งงาน แต่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มลูกค้า และผลิตภัณฑ์มากนัก อยากให้ช่วยอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้น และ ถ้าไม่รู้ อย่าพยายามตอบ เพราะถ้าตอบผิด นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ทำการบ้านมา ไม่ได้ให้ความสนใจกับงานนี้ แถมยังมั่วอีกต่างหาก
     6) ถ้าคุณได้มาทำงานกับบริษัท คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด
     คำถามนี้แสดงถึง ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถ ความชำนาญของตัวคุณเอง การตอบคุณควรตอบอย่างมั่นใจ
คำตอบที่คุณตอบไปสามารถบ่งบอกถึงความตั้งใจจริงในการทำงาน และความสามารถของตัวคุณเอง ไม่ว่าวิธีการคิดของคุณที่จะนำมาใช้กับบริษัทได้หรือไม่นั้น แต่ขอให้คุณ ใช้ประสบการณ์และ ความรู้ที่เรียนมาตอบออกไป
     7) งานอดิเรกที่คุณทำเป็นประจำมีอะไรบ้าง
     คำถามประเภทนี้ผู้สัมภาษณ์ต้องการจะดูด้านอุปนิสัย บุคลิกภาพ ของตัวผู้สมัครว่า เป็นคนอย่างไร และยังสามารถรู้ถึงความคิด ความอ่าน การสังเกตุ และการเข้าร่วมกับคนอื่นๆ
     “ผมชอบอ่านข่าว คุณก้อจะถูกถามถึงเหตุการณ์ ณ.ปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้น คุณมีความคิดเห็นต่อข่าวนี้ยังไงบ้าง” 
     “ผมชอบเล่นกีฬา กีฬาที่เล่น เพราะอะไรทำไมถึงชอบเล่นกีฬาประเภทนี้ คุณได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง”
     8) อะไรคือ จุดเด่น/จุดอ่อนของคุณ
     จุดเด่น ควรจะบอกอะไรที่คิดว่าดีที่สุดในตัวเรา และสามารถนำความสามารถนั้นมาใช้กับงานที่จะสมัครได้ เช่น
“ผมเป็นคนไม่ชอบหยุดนิ่ง เนื่องจากชอบ ชอบทำกิจกรรมใหญ่ๆอยู่เสมอ”
     จุดอ่อน ควรจะบอกในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะปรับปรุงหรือทำแล้ว ณ.ขณะนั้น และควรบอกถึงผลหลังการปรับปรุงด้วย เช่น
“ภาษาอังกฤษของผมอ่อนมากๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ เรียนมาได้ 4 เดือนแล้ว และผลการเรียนนี้เอง ทำให้ผมสามารถโต้ตอบจดหมายที่เป็นภาษาอังกฤษได้”
     9) คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่
     เป็นเรื่องที่ยากในการตอบคำถามประเภทนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเงินเดือนที่มาก หรือ น้อย ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเราทั้งสิ้น ทางที่ดี ในการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนนี้ เราควรจะหาข้อมูลจากทางเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงานในบริษัทหรือ คล้ายกับตำแหน่งที่คุณสมัครก่อน แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์เสนอเงินเดือนมาสูงหรือต่ำกว่าที่คุณตั้งไว้ คุณก็อย่าเพิ่งรีบตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 1-2 วัน แล้วค่อยให้คำตอบก้อได้ เพราะถ้าเกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นประเภทคนโลเล ไม่น่าเชื่อถือได้
     10) คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม
   
     ถ้าเจอคำถามนี้ ย่อมหมายถึงการสัมภาษณ์ได้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ในการตอบคำถามข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดีที่จะแสดงว่า เราเป็นคนเอาใจใส่ เช่น
     "ผมอยากทราบเวลา ที่แน่นอน ในการทำงานของผมครับ”
     “สวัสดิการที่ผมจะได้รับมีอะไร”
หรือ คุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะถ้าคุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทนี้มากพอแล้ว แต่ถ้าเกิดสงสัยจริงๆ ก็ควรตั้งคำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น