วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

นิสัย 8 อย่างที่ขโมยความสุขของคุณไป

นิสัย 8 อย่างที่ขโมยความสุขของคุณไป

www.ssballthai.in.th

เราพูดกันบ่อยๆ ถึงวิธีการสร้างความสุขให้ตัวคุณเอง ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเช่นการให้กำลังใจตัวเอง การมองโลกในแง่ดี ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ตัวเราเองอีกเช่นกันที่มักจะเป็นคนทำลายความสุขโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ซึ่ง MindBodyGreen เองก็ได้หยิบ 8 นิสัยที่คนเรามักทำกันจนทำให้ชีวิตของเราไม่มีความสุขขึ้นมาซะงั้น จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ

1. เทียบตัวคุณเองกับคนอื่น
หลายๆ ครั้งคุณจะรู้สึกมีความสุขดีอยู่แล้วเมื่อได้รับของอะไรมา เช่นมีเสื้อผ้าใหม่ ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้งานใหม่ แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณเริ่มหันไปเทียบกับคนอื่นแล้ว ความทุกข์ก็จะเข้ามาแทนที่ความสุขอย่างรวดเร็ว เช่นถ้าคุณได้เงินเดือนสัก 20,000 บาท คุณก็คงจะรู้สึกดีที่มีงานทำ มีเงินเดือนที่สามารถซื้ออะไรได้มากมาย แต่พอคุณรู้ว่าเพื่อนของคุณมีเงินเดือน 25,000 ปุ๊ป -ความสุขที่เมื่อกี้คุณมีกับเงินเดือนเดิมก็จะหายไปทันที เพราะคุณจะรู้สึกว่ามัน “น้อย” กว่าคนอื่นจนลืมความรู้สึก “มาก” ไปหมดสิ้น
ฉะนั้นแล้ว อย่าไปเทียบตัวเองกับคนอื่นกันนักเลยครับ บางสิ่งที่คุณมีดีอยู่แล้ว มีคนรัก มีครอบครัว มีการมีงาน มันก็ดีมากแล้ว (มีคนมากมายที่ไม่มี) อย่าให้คนอื่นมาทำลายความสุขเลยดีกว่า

2. มัวแต่สนใจว่าคุณดูเป็นอย่างไร
สำหรับหลายๆ คนนั้น ภาพลักษณ์ของตัวเองถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และนั่นทำให้หลายๆ คนรู้สึกกังวลกับรูปร่าง -ส่วนของตัวเองประเภทฉันอ้วนไปไหม ผอมไปหรือเปล่า ใบหน้ามีริ้วรอย ฯลฯ ซึ่งบางทีมันก็ “มากเกินจำเป็น” เหมือนกับที่หลายๆ ครั้งเรารู้สึกงงๆ ว่าเพื่อนเรากังวลเรื่องหน้าตาอะไรทั้งที่ยังดูดีอยู่ด้วยซ้ำ หนักๆ เข้าบางคนก็รู้สึกแย่กับตัวเองไปเลยก็มี การคิดแบบนี้เองที่ทำให้คุณทำลายความสุขของตัวเองไปอย่างมากเลยทีเดียว

3. ชอบตัดสินไปเสียทุกอย่าง
มุมมองของเราต่อสิ่งรอบข้างและพยายามบอกว่ามัน “ถูก” หรือ “ผิด” บ้างก็ “สวย” หรือ ห่วย” อยู่ตลอดเวลานั้น ในหลายๆ ทีกลายเป็นการสร้างอคติให้กับตัวคุณเวลามองโลกซึ่งหลายๆ อย่างคุณก็ไม่สามารถไปควบคุมมันได้ด้วยซ้ำ มันคงจะดีกว่าถ้าคุณเปิดใจให้กับสิ่งต่างๆ มากขึ้น แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สมใจคุณสักเท่าไร แต่มันก็มีเหตุผลของมันซึ่งถ้าคุณยอมรับมันได้ คุณก็จะไม่ต้องรู้สึกแย่ๆ กับสิ่งต่างๆ หรอกครับ

4. ทำสิ่งต่างๆ เพราะคนอื่นเขาทำกัน
การเป็นคนประเภททำตามกระแสไปเรื่อยๆ นั้นก็ไม่ต่างจากการที่คุณต้องยึดติดกับคนอื่นแทนที่จะให้ได้เป็นตัวของตัวเอง วิธีแบบนี้อาจจะกลายเป็นการทำลายตัวตนของคุณโดยไม่รู้ตัว จริงอยู่ว่าบรรดาคู่มือ หนังสือ นิตยสารอาจจะมีคำแนะนำดีๆ ให้กับคุณ แต่ก็ใช่ว่าคุณต้องเชื่อและทำตามไปเสียหมดทุกอย่าง บางอย่างอาจจะดีกว่าถ้าคุณมีทางของตัวเองซึ่งอาจจะเวิร์คกว่าเสียด้วยซ้ำไป

5. ไม่ฟังเสียงของตัวเอง
ในบางจังหวะของชีวิต (หรือหลายๆ ครั้ง) คุณจะได้ยินเสียงจากลึกๆ ของหัวใจคุณ บางทีมันก็มาจากสัญชาติญาณของคุณซึ่งหลายๆ ที (อีกนั่นแหละ) ที่มันจะไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้ยินตอนนั้น แต่ในความจริงแล้ว เสียงเหล่านี้ล้วนมาจากความรู้สึกลึกๆ ของคุณที่บอกให้คุณทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยแต่คุณมักจะเลือกไม่ฟังมันอยู่บ่อยๆ ฉะนั้นแล้ว เวลาที่เกิดเสียงเหล่านี้ขึ้นมา ลองฟังมันเสียหน่อย พิจารณาดูว่าอะไรกันแน่คือสิ่งที่คุณควรทำ

6. เสพสื่อมากเกินไป
เรากำลังอยู่ในยุคที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมายซึ่งทำให้เราเกิดการเสพติดข่าวสารอย่างช่วยไม่ได้ หลายๆ คนติด Facebook เล่น Twitter แบบไม่ลืมหูลืมตา นั่นยังไม่รวมกับสื่อเดิมๆ อย่างพวกทีวี วิทยุ และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งที่เราอาจจะลืมคิดกันไปคือหลายสื่อนั้นมีการแต่งแต้มสีสันที่มากเกินไป บ้างก็อาจจะขายความดราม่าเพื่อให้คนสนใจ และการเสพสื่อเหล่านั้นเกินไปก็ทำลายความรู้สึกดีๆ ที่คุณมีอยู่ไปโดยไม่รู้ตัว หลายๆ คนอาจจะรู้สึกหดหู่กับคำพูดหรือคำบรรยายต่างๆ บ้างก็อาจจะรู้สึกเศร้ากับการบิ้วท์ของรายการต่างๆ ทั้งที่คุณไม่ได้จำเป็นต้องได้รับสารหรือความรู้สึกอย่างนั้นเลย

7. ซื้อของห่วยๆ ที่คุณไม่ได้จำเป็นต้องใช้เลย
ทุกวันนี้เรามีผลิตภัณฑ์มากมายอยู่ในตลาดและเราก็มักจะเผลอซื้ออะไรหลายๆ อย่างไปมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าเรามาดูๆ ของในบ้านเรานั้น หลายชิ้นเราไม่เคยได้ใช้เลยหลังจากซื้อ บางอย่างก็ใช้แล้วพบว่ามันแย่เกินกว่าจะใช้ได้อีกซึ่งนั่นทำให้คุณรู้สึกแย่ เสียดายเงินขึ้นมา นั่นยังไม่รวมกับพฤติกรรมประเภทซื้อของระบายอารมณ์ที่สุดท้ายกลายเป๋นว่าต้องมาเครียดภายหลังกันแทนอีก ฉะนั้นแล้วอย่าซื้อของที่ไม่ได้จำเป็นหรือคุณไม่ได้ต้องการมันจริงๆ นักเลย ไม่อย่างนั้นแทนที่คุณจะสุขก็จะกลายเป็นทุกข์ไปแทน

8. กลัวที่จะสนุกสนานรื่นเริง
หลายๆ ครั้ง การรื่นเริงก็เป็นเรื่องที่หลายๆ คนกลัวเพราะมันต้องทำอะไรบางอย่างที่ต่างไปจากเดิม เช่นต้องออกจากกรอบวิถีการใช้ชีวิตแบบเก่ง หรือต้องออกไปลองอะไรใหม่ๆ ซึ่งพอเป็นแบบนั้น บางคนก็จะรู้สึกว่าอยู่แบบเดิมดีกว่าและกลายเป็นกลไกป้องกันตัวเองมากเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น