วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

4 อันดับเหตุการณ์ ที่นำของกินมาใช้สู้

4 อันดับเหตุการณ์ ที่นำของกินมาใช้สู้

www.kiitdoo.com

อันดับที่ 4: ชนะด้วยชีส



ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1860 อุรุกกวัยกับบราซิลกำลังทำสงครามไฝว้กันอย่างเมามัน ซึ่งสนามรบของทั้ง 2 ส่วนใหญ่ก็เป็นคอร์ดแบท เอ้ย ผิดเรื่องๆ แต่เป็นทะเลครับ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ก็มีชื่อเสียงจากการรบทางทะล แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่เรือของอุรุกกวัยกำลังยิงตอบโต้กับเรือของบราซิล กระสุนปืนใหญ่ของฝั่งอุรุกกวัยดันหมดซะงั้น และในระหว่างที่ลูกเรือกำลังเสียขวัญ กัปตันก็สั่งให้ไปเอา"ก้อนชีส" ที่เก็บไว้ใต้ท้องเรือมายิงแม่มซะ



ลูกเรือก็รับคำสั่งเอาก้อนชีสมายิงแต่โดยดี ซึ่งผลครั้งนี้ก็เกินความคาดหมายครับ เพราะก้อนชีสที่ถูกยิงออกไปนั้น ได้แตกกระจายเป็นเศษเล็กๆพุ่งเข้าใส่ทหารบนเรือบราซิลล้มตายไปเยอะ แถมยังไปทำลายใบเรือจนขาดด้วย ทำให้เรือบราซิลยอมถอยกลับไปในที่สุด



อันดับ 3: ตายเพราะน้ำผึ้ง



Heptacomitae เป็นชนเผ่ากลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอิรักช่วงยุคสมัย 1 ศตวรรษก่อนคริสตกาล ซึ่งชนเผ่านี้คอยถูกตามล่าจากอาณาจักรโรมันตลอดเวลา แต่แล้วชนเผ่านี้ก็สามารถแก้เผ็ดพวกทหารโรมันที่ตามฆ่าด้วยการใช้ "น้ำผึ้ง" ครับ น้ำผึ้งพวกนี้เป็นน้ำผึ้งที่มีพิษ ไม่มีผลต่อผึ้ง แต่มีผลต่อคนอย่างแรง เพราะถ้ากินไปแล้ว มันจะส่งผลให้คนที่กินเกิดอาการเพ้อ เสียสติ พูดง่ายๆก็คือเป็นบ้านั่นเอง



ซึ่งชาว Heptacomitae ได้ใช้น้ำผึ้งนี้เทใส่ถ้วยวางไว้แล้วหนี พวกทหารโรมันที่ตามมาหมายจะเอาชีวิต เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเหลืออยู่เลยนอกจากน้ำผึ้งในถ้วย ก็เลยหยุดนั่งกินกัน และผลที่ตามมาก็คือทหารโรมันเสียสติจากการกินน้ำผึ้ง และก็ถูกชาว Heptacomitae ย้อนกลับฆ่าทิ้งอย่างง่ายดาย



อันดับที่ 2: ระเบิดแป้งแพนเค้ก



ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาต้องการจะลักลอบนำวัตถุระเบิดเข้าไปให้กลุ่มกบฎจีนเพื่อต่อสู้กับทหารญี่ปุ่น แต่ติดที่ว่า ทุกครั้งที่ส่งสินค้าเข้าจีน จะต้องเจอกับด่านตรวจของทหารญี่ปุ่นซึ่งจะทำหน้าที่เช็คสินค้า ทางอเมริกาเลยประดิษฐ์ของชิ้นนี้ขึ้นมา นั่นก็คือดินระเบิดในรูปแบบของแป้งอบแพนเค้ก ซึ่งมีโค้ดเนมว่า "Aunt Jemima (เป็นชื่อยี่ห้อแพนเค้กที่ดังมากในอเมริกา)"



แต่ก็เพื่อเป็นพิสูจน์ว่านี่ไม่ใช่ดินระเบิดจริงๆ แป้งชนิดนี้ต้องนำไปอบแล้วเอามากินได้ด้วย ซึ่งก็กินได้จริงๆ และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น แป้งระเบิดยี่ห้อ Aunt Jemima จำนวน 15 ตันก็ถูกส่งถึงมือกบฎชาวจีนโดยที่ทหารญี่ปุ่นไม่สามารถจับได้เลยซักนิด

ปล. แต่ก็มีคำเตือนด้วยว่าห้ามสูบบุหรี่ขณะกินเพราะก๊าซจากบุหรี่อาจไปทำปฏิกิริยากับแป้งทำให้ระเบิดได้



อันดับที่ 1: จมเพราะมันฝรั่ง



ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงดำเนินอยู่ เรือ USS O'Bannon ได้ทำการลาดตระเวนน่านน้ำแถวมหาสมุทรแปซิฟิก และในระหว่างนั้นเอง มัจจุราชใต้น้ำสัญชาติญี่ปุ่นก็โผล่จะเอ๋ขึ้นมาบนผิวน้ำพอดี แต่ดูเหมือนว่ากล้องส่องของเรือดำน้ำจะพังใช้การไม่ได้ ทางฝั่งเรือ USS O'Bannon ก็ไม่รอช้า รีบระดมแจกกระสุนน้อยใหญ่ใส่เรือดำน้ำเพื่อไม่ให้หลบหนีไปใต้น้ำได้ แต่ทว่า เรือดำน้ำญี่ปุ่นก็ยังไม่จม พวกเค้าเลยคิดจะเข้าประชิดเข้าทางด้านข้างเรือแล้วเอาปืนบนเรือทุกลำที่มีจ่อลงไปแล้วระดมยิง แต่นั่นก็หมายความว่า ทางเรือ USS O'Bannon เองก็มีสิทธิ์ถูกยิงมาจากเรือดำน้ำเหมือนกัน


USS O'Bannon

ระหว่างที่เรือ 2 ลำกำลังจะตีขนาบใกล้กัน ทางฝั่งทหารญี่ปุ่นก็กรูขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือพร้อมอาวุธเต็มมือเล็งมาที่เรือ USS O'Bannon แต่ยังไม่ทันจะเริ่มยิง ลูกเรือ USS O'Bannon ก็ระดมขว้างมันฝรั่งใส่ทหารญี่ปุ่น ทางฝั่งทหารญี่ปุ่นก็ตกใจ คิดว่ามันฝรั่งเป็นระเบิดมือ เลยรีบคว้าแล้วโยนทิ้งไปจากเรือ กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าโดนต้ม เรือ USS O'Bannon ก็เลยระยะยิงไปแล้วพร้อมกับเลี้ยวเข้ามาหาเรือดำน้ำญี่ปุ่นก่อนจะเปิดฉากยิงเรือดำน้ำจนจมลงไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น