องค์กรจะก้าวหน้า ต้องพัฒนาให้เหมาะกับวัย
credit: jobsdb.com
HR ในแต่ละองค์กรอาจจะมีรูปแบบการพัฒนาบุคลากรที่แตกต่างกัน บางองค์กรอาจ ใช้วิธีการฝึกอบรม (Training) บางแห่งใช้วิธีการเข้าร่วมสัมมนา (Seminar) การฝึกปฏิบัติ (Workshop) การสอนงาน (Mentoring) ส่วนบางแห่งอาจใช้หลาย ๆ วิธีรวมกัน
แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีใดในการพัฒนาประสิทธิภาพของพนักงาน HR ต้องคำนึงถึงเรื่องช่องว่างระหว่างวัยด้วย เพราะคนแต่ละรุ่น แต่ละวัย มีลักษณะที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรทั้งองค์กรได้ HR จึงต้องทำความเข้าใจในคนแต่ละรุ่นให้ดี แล้วจึงเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการพัฒนา พวกเขา
- Gen-B หรือ Baby Boomers คนที่เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2490-2508 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม ที่มีอาวุโสในองค์กร ชอบการทำงานที่มีแบบแผน ลักษณะการฝึกอบรมต่าง ๆ ควรอยู่ในรูปแบบที่เป็นทางการ เน้นทฤษฎี และสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน เช่น การเข้าห้องเรียน (Class room) การเข้าร่วมสัมมนา (Seminar) การฝึกอบรม (Training) เป็นต้น
- Gen-X คนที่เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2508-2522 เป็นกลุ่มที่ชอบการเรียนรู้ ช่างคิด ช่างซักถาม ชอบเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติมากกว่า เรียนทฤษฎี ดังนั้น การฝึกอบรมแบบเดียวกับที่ใช้กับ Baby Boomers ไม่เหมาะที่จะใช้กับ Gen X รูปแบบการพัฒนาคนกลุ่มนี้ควรเป็นการทำ Workshop การสอนงาน และการเป็นพี่เลี้ยง จะเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้มากกว่า
- Gen-Y คนที่เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2523-2543 คนรุ่นนี้เกิดในยุคเทคโนโลยีที่เจริญรุดหน้าทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และไอที จึงชื่นชอบการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านสื่อออนไลน์เป็นพิเศษ ชอบโต้ตอบ แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บบอร์ด และเครือข่ายออนไลน์ต่าง ๆ การพัฒนาพนักงานในกลุ่มนี้ ให้ได้ผล อาจต้องนำสื่อออนไลน์มาประยุกต์เข้ากับแผนพัฒนาบุคลากร เช่น จัดหาบทเรียนออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ให้เขาฝึกฝนด้วยตนเอง รวมถึงใน เรื่องของการสื่อสาร (Communication) และการบริหารแรงงานสัมพันธ์ (Employee Relationship Management) ผ่านทางเว็บบอร์ดองค์กร และเครือข่ายออนไลน์ต่าง ๆ ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ
แม้ว่าในอนาคต Gen-Y จะเข้ามาแทนที่คนรุ่นก่อนอย่าง Baby Boomers และ Gen X แต่ก็มิใช่ว่า องค์กรจะมุ่งพัฒนาแต่กลุ่มคลื่นลูกใหม่จนหลงลืมคนรุ่นก่อนที่อาจจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่สมัยบุกเบิกองค์กร หรือผ่านพ้นวิกฤติการณ์ฟองสบู่แตก ในปี 2540 ที่มาด้วยกัน เพราะคนเหล่านี้ล้วนสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีความรู้ วิธีคิดที่ลึกล้ำ ที่ควรได้รับการถ่ายทอดไปยังคนรุ่นใหม่ และเนื่องจากเป็นกลุ่ม ที่มีความผูกพันกับองค์กรมายาวนาน ทำให้คนกลุ่มนี้มีความจงรักภักดีในองค์กรอย่างมาก ซึ่งอาจหาได้ยากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ๆ สมัยนี้ที่มักเปลี่ยนงานบ่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น