ดูฟุตบอลโลกอย่างไร ไม่ทำร้ายสุขภาพ
credit: kapok.com
ฟุตบอลโลก 2014 เปิดฉากแล้ว แต่จะดูฟุตบอลโลกอย่างไรไม่ให้เสียสุขภาพ หรือเสี่ยงต่อโรคอ้วนที่เกิดจากการดูบอลไปกินขนมไป เรามีคำแนะนำมาบอก
เข้าสู่เทศกาลฟุตบอลโลก 4 ปีมีครั้งให้แฟนลูกหนังชาวไทยได้เวลาเฮดัง ๆ แล้ว แต่พอเหลือบดูตารางเวลาการแข่งขันฟุตบอลโลกถึงกับถอนหายใจ เพราะมีแต่คู่ดึก ๆ ทั้งนั้นเลย ขืนอดตาหลับขับตานอนดูทุกคู่ สุขภาพร่างกายคงได้ทรุดไปก่อนแน่ ๆ งั้นแบบนี้คอบอลทั้งหลายต้องวางแผนให้ดีก่อนจะดูบอลแล้วล่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปจ้า เพราะวันนี้กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแฟนบอลกันด้วย เคล็ดลับการดูฟุตบอลแบบไม่ให้เสียสุขภาพ
ก่อนจะอดนอนดูฟุตบอล ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและสามารถรับชมการแข่งขันได้ตลอดระยะเวลาของการถ่ายทอด
หากไม่สามารถชมการแข่งขันได้ทุกคู่ ควรเลือกชมเฉพาะคู่พิเศษที่สนใจ จะช่วยลดปัญหาการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอได้
ระหว่างการแข่งขันตลอดทัวร์นาเมนต์ ควรหาเวลานอนพักผ่อนให้ได้ 6-8 ชั่วโมง แต่ถ้ามีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรหาเวลาในช่วงพักเที่ยงหรือช่วงหัวค่ำก่อนการแข่งขันด้วยการงีบหลับ เพราะการนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแอ และทำให้มีโอกาสเป็นหวัดได้ง่าย อีกทั้งยังมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายที่ควบคุมความอยากอาหาร ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความหิวจนสามารถนำไปสู่โรคอ้วนได้
ควรชมฟุตบอลผ่านจอโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ในระดับสายตา และควรพักสายตาในช่วงพักครึ่งการแข่งขัน
หากชมการแข่งขันเป็นเวลานาน ๆ ควรนั่งอย่างถูกวิธีด้วยการนั่งบนเก้าอี้ห้อยขาลง ไม่ควรนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ หรืองอเข่านาน ๆ
หากรู้สึกเมื่อยก็ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ด้วยการลุกขึ้น หรือออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียดอย่างง่าย ๆ ระหว่างนั่งชมหรือช่วงพักการแข่งขัน เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ทั้งกล้ามเนื้อแขน ขา คอ และหลัง จะทำให้รู้สึกสบายขึ้น
ควรชมการแข่งขันฟุตบอลเพื่อความสนุกและการส่งเสริมกีฬาเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเล่นพนันบอล เพราะจะก่อให้เกิดความเครียดและมีปัญหาสุขภาพจิตตามมา
แม้นอนดึกก็ควรตื่นเช้าเช่นเดิม หลายคนเข้าใจว่านอนดึกตื่นสายเป็นสิ่งที่ดี เพราะถือเป็นการชดเชยกัน แต่แท้ที่จริงแล้วส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะความสมดุลของนาฬิกาในร่างกายได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว หากทำเช่นนั้นจะก่อให้เกิดภาวะเซื่องซึม สมองล้า
คนที่พักผ่อนน้อย เพราะนอนดึก ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันอาการร้อนใน
ต้องวางแผนการทานอาหารล่วงหน้า คือในตอนกลางวันอาจไม่ต้องทานอาหารเต็มที่ ให้เผื่อไว้สำหรับมื้อดึกระหว่างดูบอล ซึ่งถ้ารู้สึกหิวในมื้อดึก ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ให้พลังงานสูง ทานแล้วให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย เช่น ฝรั่ง ส้มโอ ชมพู่ แอปเปิล หรืออาจทานโจ๊ก น้ำเต้าหู้ที่ไม่หวานมากนัก ขนมจำพวกถั่วต่าง ๆ ทานได้บ้าง แต่ไม่ควรโรยเกลือ เพราะจะยิ่งทำให้ขาดน้ำ
หลีกเลี่ยงการกินขนมขบเคี้ยวที่มีไขมันสูง และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ที่มักจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงนี้ เช่น ป๊อบคอร์นเคลือบเนยและคาราเมล มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวเกรียบทอด ไก่ทอด ไส้กรอก น้ำอัดลม ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ เพราะเป็นอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายน้อย และไม่ดีต่อสุขภาพ ให้พลังงานสูง จึงก่อให้เกิดโรคอ้วนตามมาด้วย
ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะเพิ่มภาระต่อระบบการย่อยอาหารในร่างกาย
ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะจะไปบีบหัวใจทำให้หัวใจทำงานหนัก หากรู้ว่าคืนนี้จะมีบอลคู่โปรดต้องอยู่ดึกให้ดื่มน้ำตามเยอะ ๆ จะช่วยไม่ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย
หลังตื่นนอน ควรทานอาหารที่เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย ได้แก่ อาหารจำพวกนมวัว จะช่วยกระตุ้นสมอง หรือรับประทานอาหารจำพวกไก่ หรือไข่ เช่น ไข่ตุ๋น หรือซุปไก่ เพราะจะมีซิสเทอีน ช่วยกระตุ้นสมอง หรือจะรับประทานธัญพืช ช่วยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง เช่น กระยาสารท งาดำ เป็นต้น
ถ้าอดนอนมานาน ไม่ควรทานอาหารร้อน ๆ อาหารทอด มัน ๆ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย เนื่องจากเวลากลางคืนจะเป็นเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมการอักเสบ ถ้าอดนอน ตื่นมาจะทำให้เจ็บคอ ร้อนใน เป็นสิวมากขึ้น เพราะเกิดการอักเสบขึ้นมาแทน
ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินบีและซีสูง เพื่อเป็นการชดเชยส่วนที่หายไป อย่าง ข้าวกล้อง ผักหรือผลไม้สด ๆ น้ำส้มคั้นสด ๆ แต่ถ้าหาได้ลำบากเป็นวิตามินสำเร็จรูป เช่น วิตามินบีรวม วันละ 1-2 เม็ด และวิตามินซีวันละ 1,000 มก. โดยวิตามินบีและซีจะช่วยทำให้สมองลดความเครียดได้
พูดถึงเรื่องการทานขนมขบเคี้ยวและดื่มเครื่องดื่มระหว่างนั่งดูฟุตบอลแล้ว มาเสริมข้อมูลเรื่องนี้จากกรมอนามัย กันหน่อยดีกว่า รู้ไหมว่า ขนมและเครื่องดื่มที่คนนิยมนั่งทานระหว่างดูฟุตบอลโลกนั้นให้พลังงานมากน้อยแค่ไหน
ชาเขียวรสน้ำผึ้ง 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี่
มันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุงใหญ่ ขนาด 57 กรัม ให้พลังงาน 320 กิโลแคลอรี่
น้ำอัดลม 1 ขวด ขนาด 500 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี่
ไส้กรอก 1 ถุง ขนาด 150 กรัม ให้พลังงาน 500 กิโลแคลอรี่
ถั่วลิสง 10 เมล็ด+เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 6 เมล็ด+อัลมอลด์ 6 เมล็ด ให้พลังงานเท่ากับน้ำมัน 1 ช้อนชา หรือเท่ากับ 45 กิโลแคลอรี
แอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงาน 7 กิโลแคลอรี่
เบียร์ 1 กระป๋อง ขนาด 350 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 137 กิโลแคลอรี่
ไวน์ 1 แก้ว ขนาด 100 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 75 แคลอรี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น