วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

10 วิธีเห็นผีแบบไทย



    10 วิธีเห็นผีแบบไทย

     credit: www.kapook.com 



ชาวสนุก!ดูดวงคนไหนชอบหรือเชื่อในเรื่องผีบ้าง? เชื่อว่าหลายคนคงเชื่อและเคยสัมผัสถึงวิญญาณสิ่งเร้นลับเหล่านี้กันมาบ้าง
แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่เคยเห็นและอยากจะลองสัมผัสกับผีหรือวิญญาณดูบ้าง ขอแนะนำ "ของไทย" เราที่จะทำให้คุณขนหัวลุกแบบไม่ทันตั้งตัวจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันเลย
10 วิธีเห็นผีแบบไทย
อันดับที่ 1 ใส่เสื้อผ้าของคนตาย ใส่เสื้อผ้าของคนตายและกลั้นหายใจ ลองทำแบบนี้ที่วัด คุณจะเห็นเจ้าของเสื้อผ้าตัวจริงที่ตายไปแล้ว
อันดับที่ 2 เล่นผีถ้วยแก้ว เตรียมผังกระดาษกับถ้วยแก้ว และลองเล่นผีถ้วยแก้ว เมื่อเล่นเสร็จ ตอนจะเชิญวิญญาณออกจากถ้วย กลับถ้วยแก้วให้อยู่ข้างบน คุณจะเห็นวิญญาณที่มาเล่นกับคุณ
อันดับที่ 3 นอนในโลงศพ ถ้าอยากรู้ว่าชีวิตในโลกหน้าเป็นยังไง ลองนอนในโลงศพดูสิ อย่าลืมใส่เหรียญไว้ในปาก จะมีใครซักคนพาคุณไปทัวร์โลกหน้า
อันดับที่ 4 ก้มมองทะลุหว่างขา เรา ทุกคนล้วนเกิดมาจากหว่างของมารดา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบริเวณที่ติดต่อกันระหว่างโลกและโลกของวิญญาณ ลองก้มหัวมองทะลุหว่างขาที่วัดจะทำให้คุณเห็นวิญญาณได้ อย่าดูนานเกินไปละ ไม่เช่นนั้นอาจจะได้ไปอยู่กับวิญญาณเหล่านั้น
อันดับที่ 5 กางร่ม การกางร่มภายในอาคารตอนกลางคืนจะทำให้ผีและวิญญาณติดตามคุณ
อันดับที่ 6 ดูเงาในกระจก เที่ยงคืน ปิดไฟทั้งหมด และจุดเทียน นั่งอยู่หน้ากระจกและใช้หวี หวีผม มองตัวเองในกระจกเงา สิ่งที่เห็นในกระจกอาจจะไม่ใช่ตัวคุณ
อันดับที่ 7 ใช้ดินจากสุสานมาทาเปลือกตา เชื่อกันว่าดินที่ใช้ขุดหลุมฝังศพจะซึมซับวิญญาณและความตายเอาไว้ ยิ่งลึกลงไปก็ยิ่งซึมซับได้มากขึ้น เมื่อใช้ดินทาเปลือกตาจะทำให้เรามองเห็นว่าวิญญาณกำลังทำอะไรกันอยู่
อันดับที่ 8 เล่นซ่อนหา เล่นซ่อนหาตอนกลางคืนเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้คุณเจอผี ผีจะทำให้คนที่ซ่อนอยู่ไม่มีใครเห็น ส่วนคนที่กำลังหาก็จะหาไม่พบ และคนที่ซ่อนก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าตัวเอง ผีจะลวงตาทำให้ไม่เห็นคนที่พยายามหาเค้าอยู่ วิธีแก้คือ ต้องให้แมวดำวิ่งผ่าน ถ้าไม่มีแมวดำ คุณจะไม่เห็นสิ่งใดๆอีกตลอดกาลจนตาย เพราะมีความเชื่อว่าผีต้องการใครไปอยู่ด้วย
อันดับที่ 9 เรียกผีมาทานอาหาร ผี ตายโหง หรือ คนที่ตายแบบฉับพลันจากอุบัติเหตุ จะยังไม่สามารถรับสภาพความตายนั้นได้ วิญญาณเหล่านั้นยังคงเชื่อว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่และทำสิ่งต่างๆเสมือนคนปกติ ลองวางอาหารไว้ในที่ที่เกิดอุบัติเหตุ หรือ ทางสามแพร่ง(เชื่อกันว่าเป็นทางผีผ่าน) เคาะช้อนหรือส้อม เสียงเคาะจะทำให้ผีคิดว่าถึงเวลามาทานอาหาร สิ่งที่จะเห็นคืออาหารจะค่อยๆหายไป
อันดับที่ 10 ใช้น้ำตาของสุนัขดำมาป้ายเปลือกตา สุนัขดำเป็นสัญลักษ์ของโชคร้ายและสัตว์ที่เชื่อว่ามองเห็นสิ่งลี้ลับได้ ลองใช้น้ำตาของสุนัขดำทาเปลือกตา มีความเชื่อกันว่าถ้าลืมตาขึ้น จะทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งลี้ลับจากโลกอื่นได้

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเครื่องดืมเเละอาหาร

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเครื่องดืมเเละอาหาร 



credit: pinterest

กระทะอบเค้กสุดเก๋ มีช่องแยกสำหรับลองชิมรส

กระทะอบเค้กสุดเก๋ มีช่องแยกสำหรับลองชิมรส


credit: home.kapook.com




คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจ Animal Body Parts

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจ Animal Body Parts 



credit: 


Animal body parts English vocabulary - Trunk, shell, whiskers and so forth #ESL #TEFL



คำศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับเครื่องมือ Picture Dictionary: Tools




คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจ Animal Body Parts 



credit: www.english.brainma.com


EwR.Poster #English Vocabulary - Tools

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารเช้า

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหารเช้า English Breakfast



credit: eflpractice.com



English vocabulary - the English breakfast

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจ Traffic Signs ป้ายจราจร

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจ Traffic Signs  



credit: facebook.com/eflpractice 


English vocabulary - road signs

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหาร Food Vocabulary

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาหาร Food Vocabulary


credit: 


EwR.Vocabulary #English - Poster: Food and Drinks

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเครื่องดืมเเละอาหาร

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเครื่องดืมเเละอาหาร 



credit: pinterest

EwR.Poster #English Vocabulary - All About Non-alcoholic Drinks

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

10 วิธีถนอม ดวงตา ให้สวยใส

      

10 วิธีถนอม ดวงตา ให้สวยใส

 credit: www.manager.co.th 





       นอกจากนี้ เมื่อละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์แล้ว ขณะเดินทางไปไหนมาไหน หรือมีเวลาว่างก็เป็นต้องคว้าอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตขึ้นมาเล่นเกม หรือไม่ก็แชตกันจนบางครั้งก็ลืมไปว่าโลกของเรายังมีอะไรที่ชวนมองที่มากไปกว่าหน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
      
       การใช้สายตาไปกับอุปกรณ์เหล่านี้มากๆ ถือว่าเป็นการทำร้ายดวงตาไปเรื่อยๆ หากไม่อยากสายตาฝ้าฟางก่อนวัยหรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับตา ก็ควรที่จะหันมาดูแลสุขภาพดวงตากันเสียแต่เนิ่นๆ ซึ่งการดูแลก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก แค่ปฏิบัติได้ตาม 10 วิธีนี้ คุณก็จะมีดวงตาที่สวยใส ช่วยให้มองเห็นโลกนี้ไปได้อีกนาน
      
       1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ได้แก่ อาหารประเภทผักใบเขียว ซึ่งมีสารจำพวกลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) จะสามารถช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม หรืออาหารประเภทเบอร์รี โดยเฉพาะสีน้ำเงิน-ม่วงเข้ม ซึ่งจะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยป้องกันโรคตาบอดกลางคืนได้
      
       2. ลดอาการตาแห้งโดยพักสายตาจากการทำงาน ให้กระพริบตาบ่อยขึ้น หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลมเป่า และดื่มน้ำปริมาณมากๆ จะสามารถลดอาการตาบวมได้อีกด้วย
      
       3. พักสายตาทุกๆ ชั่วโมงประมาณ 10-15 นาที หากต้องใช้สายตาหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยวิธีการพักสายตาให้มองออกไปที่ระยะไกล หรือที่ที่มีพื้นที่เป็นสีเขียว เช่น ต้นไม้
      
       4. ปรับปริมาณแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ไม่ให้สว่างจนเกินไป
      
       5. สวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกกลางแจ้ง เพื่อช่วยลดปริมาณแสง และรังสียูวีที่อาจจะเข้าดวงตา อีกทั้งการสวมแว่นกันแดดจะสามารถช่วยป้องกันริ้วรอยรอบดวงตา และโรคต้อกระจกได้ ทั้งนี้แว่นกันแดดที่ส่วมใส่นั้นจะต้องป้องกันรังสียูวีได้ตามมาตรฐาน
      
       6. ไม่ควรใส่คอนแท็กต์เลนส์เกินวันละ 8-12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดโรคกระจกตาบวม เมื่อกลับมาถึงบ้านควรเปลี่ยนมาใส่แว่นสายตาแทน
      
       7. หลีกเลี่ยงการขยี้ตาโดยตรงหากจำเป็นให้ใช้คอตตอนบัด หรือน้ำสะอาดล้างผ่าน
      
       8. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนน้อยจะทำให้เส้นเลือดบริเวณตาขาวปรากฏชัดเจน มองแล้วไม่สวยงาม
      
       9. ควรตรวจเช็กสายตา และสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี หรือทุกครั้งที่รู้สึกว่าแว่นสายตาที่ใช้อยู่ไม่ชัดเท่าที่ควร
      
       และ 10. เลือกใช้เลนส์แว่นที่มีคุณภาพ และควรเลือกให้เข้ากับกิจกรรม เลนส์ที่ให้ความคมชัดทุกระยะมีมุมมองที่กว้าง ที่สามารถช่วยในการมองเห็นได้แบบไร้ขีดจำกัด ทำให้รู้สึกสบายตา เคลื่อนไหวไปมาได้อย่างสมดุลไม่เวียนศีรษะ

10 วิธีลดเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม

10 วิธีลดเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม


 credit: www.manager.co.th


คราวนี้ในบ้าน ขอเปลี่ยนจากไอเดียการออกแบบบ้าน มานำเสนอการ


10 วิธีลดเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม


อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะ 10 วิธีปฏิบัติตัวสำหรับหนุ่มสาววัยทำงาน สามารถลดความเสี่ยงโรคออฟฟิศซินโดรมได้
(Info) 10 วิธีลดเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม

วิธีกำจัดความเครียด



    วิธีกำจัดความเครียด 

     credit: www.kapook.com 



              ขึ้นชื่อว่าความเครียด ไม่ว่าจะเกิดจากหน้าที่การงาน หรือจากอะไรใด ๆ ก็ตามแต่ ล้วนแล้วแต่จะพาลให้ทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายเสียตามไปด้วย และหากปล่อยให้เกิดความตึงเครียดทิ้งไว้ต่อไป เห็นทีจะมีแต่ปัญหาแน่ ๆ วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีง่าย ๆ ในการลดความตึงเครียดของคุณลง จะมีวิธีการใดบ้าง ลองมาดูกัน

     1. หายใจเข้า - ออกลึก ๆ   
              คุณลองสังเกตด้วยตัวของคุณเองได้เลยว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มรู้สึกเครียดกับอะไรบางอย่างแล้วล่ะก็ ลักษณะการหายใจของคุณก็มักจะติด ๆ ขัด ๆ ดังนั้น เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มเครียด ขอให้หายใจเข้า - ออกลึก ๆ ช้า ๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้
     2. พักดื่มชาสักนิด
              จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนพบว่า การดื่มชาดำเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้คุณหายจากความตึงเครียดได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย
      3. จัดตารางชีวิตซะใหม่
              หากชีวิตของคุณช่างวุ่นวาย ยุ่งเหยิงซะเหลือเกิน ขอให้ลองจัดตารางชีวิตตัวเองซะใหม่ โดยอาจจะกำหนดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันให้มีความพอดีไม่ยุ่งหรือว่างจนเกินไป และให้มีช่วงเวลาเหลือไว้ให้คุณได้พักผ่อนด้วย 
    4. ปรับเปลี่ยนทัศนคติ

              การมีทัศนคติในด้านลบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คุณต้องพบเจออยู่ตลอดเวลา ย่อมไม่เป็นผลดีแน่ ๆ ดังนั้น ขอให้คุณได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ แย่ ๆ กับสิ่งเหล่านั้นซะใหม่ อาทิเช่น หากคุณคิดว่างานนั้นยาก ทำไม่ได้ ก็ขอให้คิดซะใหม่ว่า งานนั้นถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย ต้องลองสู้ดู ถึงจะรู้ผลว่ายากจริงหรือไม่
     5. ใช้น้ำหอมกลิ่นสดชื่น ๆ
              จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พบว่า การใช้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ทำให้ระบบการหายใจดีขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ความดันโลหิตที่สูงลดลงได้ แถมยังก่อให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลายอีกด้วย 
    6. ปรับเปลี่ยนการทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ
              หากงานที่คุณทำมีความซ้ำซาก จำเจ หรือที่โต๊ะทำงานของคุณมีภูมิทัศน์ที่ไม่น่าดู ลองปรับเปลี่ยนดูใหม่ โดยอาจจะลองเปลี่ยน ย้ายที่นั่งให้ต่างไปจากเดิม ก็จะช่วยให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ในการทำงานได้ 
     7. เขียนไดอารี่ระบายอารมณ์
              งานก็หนัก เครียดก็เครียด แถมยังระบายให้ใครฟังก็ไม่ได้อีก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเขียนไดอารี่ เพราะการเขียนไดอารี่ นอกจากจะทำให้ได้รู้ว่าในแต่ละวันคุณทำ หรือเจอะเจอกับอะไรบ้างแล้วนั้น ไดอารี่ยังเป็นที่ระบายอารมณ์ได้ดีอีกด้วย เขียนไปเลย เต็มที่ ไม่ต้องยั้ง ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครรู้ เพราะมันเป็นไดอารี่ส่วนตัวของคุณ
      8. เปลี่ยนสถานที่ทำงานให้แปลกใหม่

              เปลี่ยนหลอดไฟ ทำความสะอาดโต๊ะ ปรับความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ หารูปมาวาง ฯลฯ เหล่านี้สามารถทำให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่กับการทำงานของคุณได้ แถมยังช่วยกระตุ้นไม่ให้เครียดกับการทำงานได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก
    9. นั่งสมาธิ สวดมนต์

              ธรรมะช่วยคุณได้ ลองฝึกนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบ มีสมาธิที่แน่วแน่ และอาจจะทำให้คุณหายจากความตึงเครียดไปได้โดยไม่รู้ตัว

    10. หาหนังสือดี ๆ มาอ่านสักเล่ม-ดูหนังตลก

    เลือกหานิยาย หรือหนังสือดี ๆ สักเล่มที่คุณชื่นชอบมาอ่านเพื่อบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับคุณ ปล่อยความคิดจิตใจให้โลดแล่นไปตามจินตนาการในโลกของหนังสือบ้างจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากคุณไม่ใช่หนอนหนังสือภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ ตลก ขำขัน หรือคลิปวีดีโอฮา ๆเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณหายเครียดได้อย่างแน่นอนเพราะการที่คุณได้ยิ้ม ได้หัวเราะจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและไม่รู้สึกเครียด
              

คำคมภาษาอังกฤษเเละข้อคิดดีๆ




คำคมภาษาอังกฤษเเละข้อคิดดีๆ 

 credit: www.kapook.com 



Look for the positive in those around you and point them out.
Positive attracts positive.

จงมองหาข้อดีจากผู้คนรอบข้าง
เพื่อให้คุณได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ จากพวกเขา



Never compare yourself or others to other people.
Everyone has their own struggles, own fights, 
And a different path that they chose to get to where they are.
Everyone is who they are for a reason.

อย่าเปรียบเทียบตัวเองหรือคนอื่นกับใคร ๆ
เราทุกคนต่างก็เคยผ่านอุปสรรคและความยากลำบากมาต่างกัน
และมีทางเดินของใครของมันที่แตกต่าง
เราทุกคนจึงมีเหตุผลที่จะมีตัวตนที่แตกต่างกันไป

Sometimes hurt is needed to make us grow,
Failure is needed to make us know 
And loss is needed to make us gain.
Because life's greatest lessons are
Usually taught through a little bit of pain.

บางครั้งคนเราก็จำเป็นต้องเจ็บปวด เพื่อให้เราเติบโตขึ้น
จำเป็นต้องผิดพลาด เพื่อให้เราได้เรียนรู้
จำเป็นต้องล้มเหลว เพื่อแลกกับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
เพราะบทเรียนที่มีค่าที่สุดในชีวิต
คือบทเรียนที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด



Sometimes you wish you could just fast forward the time
Just to the see if in the end
It's all worth it.

บางครั้งเราก็อยากให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ
เพื่อจะได้รู้ว่าที่เราพยายามเพื่ออนาคตนั้น
มันคุ้มค่าหรือไม่

People can't love and appreciate others,
If they cannot love and appreciate themselves.

คนเราไม่อาจรักและเห็นคุณค่าของใครได้
หากยังไม่รู้จักรักและเห็นคุณค่าของตัวเอง



People grow through experience
If they meet life honestly and courageously.
This is how character is built.

คนเราเติบโตขึ้นได้จากประสบการณ์
หากเราเลือกที่จะเผชิญชีวิตอย่างซื่อสัตย์และกล้าหาญ
และนั่นคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้



Never give up on something you really want.
However impossible things my seem,
There's always a way.

อย่ายอมแพ้ที่จะทำตามฝัน
แม้ว่ามันดูยากเกินจะเป็นความจริงได้
จำไว้เถอะว่า ทุกอย่างมีหนทางและความเป็นไปได้ด้วยกันทั้งนั้น



If people have something to say about your life,
That's saying little about their own.
Keep your head up, 
Stay strong and move on.

หากมีใครวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตของคุณ
และพูดถึงชีวิตตัวเองเพียงน้อยนิด
ก็อย่าได้ใส่ใจคำพูดเหล่านั้นเลย
จงเข้มแข็ง และก้าวต่อไปเถอะ



You're young, but the years fly and soon,
You'll be wondering what would have happened
If you would have spoken 
What was inside your heart.

คุณอาจยังเด็ก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน
สักวันหนึ่งคุณจะมองย้อนกลับมาและถามตัวเองว่า
ชีวิตจะเป็นอย่างไร หากในอดีตคุณเลือกพูดอย่างที่ใจคิด


You can get everything in life you want
If you just help enough other people get what they want.

คุณสามารถได้ทุกอย่างในชีวิตที่คุณต้องการ
หากคุณช่วยเหลือคนอื่นให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน



Good things can come
From unexpected places.



บางครั้งสิ่งดี ๆ ก็อาจมาจากที่ซึ่งคุณคาดไม่ถึง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยว สำหรับ IELTS Speaking Test

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยว สำหรับ IELTS Speaking Test 



credit: myenglishteacher.eu

English Vocabulary for IELTS Speaking Test

นิสัย 10 อย่าง ที่ไม่ดีต่อสมอง

 นิสัย 10 อย่าง ที่ไม่ดีต่อสมอง



 credit: www.vchakarn.com


หน้าที่ของสมองยังมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหวและความสามารถอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ แต่คนเรามักไม่รู้ตัวเองว่าพฤติกรรมบางอย่างที่กระทำลงไป นอกจากจะเป็นการทำร้ายร่างกายไม่พอ ยังทำร้ายสมองด้วย


1. ไม่ทานอาหารเช้า
  หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี่จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2.  กินอาหารมากเกินไป  การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคความจำสั้น
3.  การสูบบุหรี่  เป็นสาเหตุให้เกิดโรคสมองฝ่อ และโรคอัลไซเมอร์
4.  ทานของหวานมากเกินไป  การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง
5.  มลภาวะ  สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไป จะทำให้ออกซิเจนในสมองลดปริมาณลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง
6.  การอดนอน  การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน การอดนอนเป็นเวลานาน จะทำให้เซลล์สมองตาย
7.  การนอนคลุมโปง  การนอนคลุมโปงจะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น และลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8.  ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย  การทำงานหรือเรียนในขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9.  ขาดการใช้ความคิด  การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ
10. เป็นคนไม่ค่อยพูด  ทักษะการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง
รู้หรือยังคะ ว่าสมองมีความสำคัญแค่ไหน  ดังนั้นเราควรจะหันมาบำรุงสมองกันดีกว่าการทำร้ายสมองนะคะ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจกี่ยวกับอาหารเช้า

คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าสนใจกี่ยวกับอาหารเช้า 



credit: pinterest



วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Uncle Tetsu’s Cheesecake ชีสเค้กต้นตำรับจากฟุกุโอกะ

Uncle Tetsu’s Cheesecake 

ชีสเค้กต้นตำรับจากฟุกุโอกะ 

 credit: www.duetdiary.com


uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
uncle,tetsu,cheesecake,thai,ชีสเค้ก,ร้านเค้ก,เค้กอร่อย,ร้านเค้กอร่อย,ร้านอร่อย,พารากอน,สยาม,siam paragon,pantip,review,รีวิว,แนะนำ,ชีสเค้กญี่ปุ่น,ญี่ปุ่น
p20

p19



10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ


10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ

 credit: www.thaiof.org 



D7924835 11 150x150 10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ
ภาพผงฟู

10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ

1. การทำความสะอาดทั่วไป ผสมสบู่เหลวหรือบอแรกซ์ 1 ช้อนชา ในน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน 1 ลิตร เติมน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงไป 1-2 ช้อนชา แล้วนำไปเช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบไขมันสกปรกผสม Washing Soda (hydrated sodium carbonate) ในน้ำอุ่น 1 ลิตร ใช้ได้กับทุกพื้นผิว ยกเว้นอลูมิเนียม

2. วิธีกำจัดกลิ่นเหม็น/กลิ่นอับ หาแหล่งกำเนิดกลิ่นเหม็นให้พบ แล้วกำจัดออกไปให้สะอาด และเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและข้าวของเครื่องใช้ให้สะอาด และเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทให้สะดวก ใช้น้ำส้มสายชูหรือผงฟู 2-4 ช้อนโต๊ะ ใส่จานแล้ววางไว้เพื่อดูดกลิ่น นำไม้ประดับมาตั้งวางเพื่อดูดกลิ่นและฟองอากาศ ใช้สมุนไพร หรือเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมมาต้มแล้วตั้งวางไว้

3. การทำความสะอาดพื้น เช็ดถูด้วยน้ำธรรมดา ใช้น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 1 แกลลอน 5 ลิตร ถูทำความสะอาดพื้น
1373041958 10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ
ภาพมะนาว

4. การล้างจานชาม ใช้สบู่เหลวธรรมดาทั่วๆ ไปล้างจาน ใช้ฟองน้ำกับสบู่ก้อน ผสมน้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว 1-3 ช้อน ลงกับสบู่เหลวล้างจานชามที่สกปรกมีคราบไขมันมาก การทำความสะอาดจานชามและอุปกรณ์ครัวที่ทำด้วยไม้ ให้ใช้มะนาวฝานเป็นชิ้นบางๆ แล้วขัดบนพื้นผิวของภาชนะเหล่านั้น ล้างออกแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดและอาจโรยเกลือตาม เพื่อดูดความชื้นจากไม้ก็ได้ นอกจากนั้นยังอาจใช้ผงฟูผสมกับน้ำเช็ดภาชนะที่ทำด้วยไม้ได้ผลดี ขจัดคราบตะกอนในกาน้ำ ให้ใช้น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ถ้วยครึ่ง ละลายในน้ำเปล่า 1 ถ้วยครึ่ง เติมเกลือ 3 ช้อนชาลงในกาน้ำ ต้มให้เดือด 15 นาที ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน 1 คืน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด การล้างขวด ให้ใช้ทรายกรอกลงไปในขวดผสมกับน้ำ ปิดปากขวดด้วยฝ่าหนือมือ เขย่าแรงๆ คราบตะไคร่เขียวจะหลุดออก

5. การทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ใช้ไม้ปั๊ม หรืองูเหล็กดันหรือเขี่ยเศษอาหารอุดตัน เทผงฟู 1 กำมือ และน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยลงในท่อระบายน้ำ ปิดปากรูให้แน่นด้วยเศษผ้าประมาณ 1 นาที ปฏิกิริยาระหว่างผงฟูกับน้ำส้มสายชู จะทำให้เกิดแรงดันในท่อระบายน้ำ และดันเศษอาหารที่อุดตันอยู่ออกไป แล้วเทตามด้วยน้ำร้อน เทเกลือและผงฟูอย่างละครึ่งถ้วยลงในท่อ แล้วเทน้ำเดือดตามลงไป 6 ถ้วย ทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นราดน้ำแรงๆ ด้วยน้ำธรรมดา ทางที่ดีในการป้องกันไม่ให้ท่อระบายน้ำทิ้งอุดตัน ด้วยการใช้ตะแกรงกรองเศษผง เศษอาหาร เศษขยะ เศษเส้นผมไม่ให้ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ และไม่ควรเทกากของเสียประเภทไขมันลงในท่อ ควรทิ้งลงในถังขยะหรือถังน้ำมัน และควรพยายามใช้น้ำมันจนกว่าจะหมดคุณภาพ

6. การฆ่าเชื้อโรค ชำระล้างข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำด้วยสบู่และน้ำธรรมดา แล้วล้างอีกครั้งด้วยน้ำร้อน เพียงเท่านี้ก็สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ ควรให้ข้าวของเครื่องใช้แห้งอยู่ตลอดเวลา เพราะแบคทีเรียและเชื้อราไม่สามารถมีชีวิตหรือเติบโตได้ในที่แห้ง ใช้บอแรกซ์ครึ่งถ้วยละลายในน้ำร้อน 1 แกลลอน (5 ลิตร) ใช้ล้างข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องการฆ่าเชื้อโรคได้
73045 10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ
ภาพเช็ดกระจก

7. ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดถูธรรมดาๆ ใช้ผ้าชุบน้ำชาเช็ดถูพื้นเฟอร์นิเจอร์  ใช้น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำ 1 ช้อนชา ชุบด้วยผ้าใช้เช็ดถู ใช้น้ำมันพืช 1 ส่วน ผสมกับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ชุบด้วยผ้าบางๆ ใช้เช็ดถู วิธีนี้ยังสามารถช่วยลบรอยขูดขีดได้ด้วย ใช้น้ำมันมะกอก 3 ส่วน ผสมกับน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ชุบด้วยผ้าบางๆ เช็ดถู กรณีมีรอยสกปรกคราบไขมัน ให้รีบเทเกลือลงไปบนรอยเปื้อนทันทีเพื่อให้ดูดซับคราบไขมัน และป้องกันไม่ให้เกิดคราบฝังแน่น
8. การเช็ดกระจก ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอย่างละ 1 ส่วน ชุบด้วยผ้านนุ่มๆ เช็ดกระจกหรือจะใส่กระบอกฉีดๆ ที่กระจก แล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดตาม หากใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดกระจกแล้ว อาจจะเกิดคราบจากน้ำที่เช็ดเนื่องจากคราบตกค้างของน้ำยาเช็ดกระจกแบบที่มี ส่วนผสมของสารเคมีตกค้างอยู่ จึงควรเช็ดออกก่อนด้วยแอลกอฮอล์ก่อน สำหรับกระจกที่เป็นฝ้ามัว ให้ใช้ผ้าเปียกถูกับสบู่ก้อน แล้วเช็ดบนกระจก จากนั้นล้างออกแล้วเช็ดตามตามด้วยผ้าแห้ง รอยขูดขีดบนกระจกให้ใช้ยาสีฟันถู แล้วใช้ผ้านุ่มเช็ดเบาๆ

9. ทำความสะอาดพรม เฟอร์นิเจอร์ เบาะ นวมการดูดกลิ่นให้ใช้ผงฟูหรือแป้ง
images 10 วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีธรรมชาติ
พรม
ข้าวโพดโรยบน พรม โดยใช้อัตราส่วน 1 ถ้วยต่อพื้นที่ห้องขนาดกลาง ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก ถ้ากลิ่นติดแน่นให้โรยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วจึงดูดออก การขจัดคราบเลือด ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเช็ดเบาๆ จนกว่าจะหมด คราบเหนียวเหนอะหนะ ใช้ผงฟูทาทับรอยเปื้อนแล้วใช้มือถูเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงเช็ดออก ทาซ้ำอีกถ้ารอยเปื้อนยังไม่หมด คราบไขมัน ใช้แป้งข้าวโพดทาทับรอยเปื้อน ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออก คราบเขม่าหรือเถ้าถ่าน ใช้เกลือทาทับบางๆ แล้วเช็ดออก คราบปัสสาวะของเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง เช็ดด้วยน้ำธรรมดา 1 ครั้ง จากนั้นใช้น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา เช็ดถูบริเวณรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออก

10. การกำจัดมด แมลงสาบ ยุง มด ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดตามทางมด มดจะหาทางเดินไม่เจอ  โรยพริกป่น สะระแหน่แห้ง กากกาแฟ ตามบริเวณที่มดเดินหรือบีบมะนาวตามรูเข้าของมด แล้วทิ้งเปลือกมะนาวไว้ตรงนั้น ปลูกสะระแหน่ไว้รอบบ้าน มดจะไม่เข้าใกล้ ใช้ผงฟูโรยตามทางของมด ง ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดตามทางเดินมด แมลงสาบ ใช้ข้าวโอ๊ตหรือแป้งข้าวโพดผสมปูนปาสเตอร์ในอัตราส่วนเท่าๆ กัน โรยบริเวณที่แมลงสาบมารบกวน เมื่อแมลงสาบกินเข้าไปปูนพลาสเตอร์จะแข็งตัวแมลงสาบจะตาย ใช้ผงฟูผสมกับน้ำตาลทรายอย่างละเท่าๆ กัน โรยบริเวณที่แมลงสาบมารบกวน ใช้แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ บอแร๊กซ์ 4 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันใช้โรยบริเวณที่แมลงมารบกวน ยุง เอาตะไคร้หอมหั่นแล้วตำ คั้นเอาแต่น้ำแล้วนำไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมันใช้ทาผิวหนังกันยุง ใช้กาบมะพร้าวหรือเปลือกส้มตากแห้งสุมไฟ เพื่อให้เกิดควันไล่ยุง ปลูกต้นแก้วหรือต้นราตรีไว้บริเวณปากประตู หน้าต่าง จะช่วยไล่ยุงได้