วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

คุณประโยชน์ของ Logistic

คุณประโยชน์ของ Logistic

incquity.com



ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้านวิทยาการสมัยใหม่ได้มีส่วนผลักดันสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีให้สลับโฉมหน้าไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทำธุรกิจที่ทลายเส้นพรมแดนทั่วโลกอย่างสิ้นเชิงอย่างกระแสยุคโลกาภิวัตน์หรือ Globalization ที่ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไม่ไร้ขีดจำกัด ด้วยเหตุนี้การทำธุรกรรมต่างๆกับคู่ค้าที่อยู่ห่างไกลกันคนละมุมโลกจึงสามารถทำได้สะดวกมากขึ้น
การแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ระบบ Logistic ก้าวเข้ามามีบทบาทในทางธุรกิจมากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันกระแสดังกล่าวก็ยิ่งกระตุ้นให้มีการแข่งขันก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ระบบ Logistic ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบันและจะทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีกในอนาคต เพราะว่ามันสามารถตอบสนองการทำธุรกิจระหว่างคู่ค้าได้เป็นอย่างดีในเรื่องของการขนส่งเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังจุดหมายด้วยวิธีการและระบบที่ดีที่สุด Logistic จึงกลายเป็นระบบและยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนควรที่จะศึกษาและนำมาปรับใช้กับรูปแบบธุรกิจของตน ซึ่ง Incquity มีประโยชน์ของ Logictic ที่จะช่วยก่อให้เกิดผลดีกับการทำธุรกิจมาบอกต่อผู้ประกอบการทุกๆท่าน แต่ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจความหมายของมันเสียก่อนว่าคืออะไร

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าระบบ Logictic นั้นเป็นเพียงระบบการขนส่งสินค้าจากต้นทางไปสู่ปลายทางเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะระบบ Logictic ที่แท้จริงมีความสามารถที่กว้างและครอบคลุมมากกว่านั้น ซึ่งจะตีความรวมไปถึงการจัดการในเรื่องของข้อมูล การขนส่ง การบริหารวัสดุคงคลัง การจัดการวัตถุดิบ การบรรจุหีบห่อ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในขณะที่ใช้ต้นทุนต่ำที่สุดนั่นเอง
ซึ่งคุณประโยชน์ของ Logistic ที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจมีมากมายหลายประการแต่พอที่จะสรุปออกมาได้อย่างตรงประเด็นและเหมาะสมกับธุรกิจในทุกขนาดและทุกประเภทได้ดังต่อไปนี้

เป็นคุณประโยชน์ที่เห็นได้เด่นชัดมากที่สุดสำหรับการนำระบบ Logistic มาใช้งานภายในบริษัท เพราะจะช่วยให้การบริหารจัดการในเรื่องของการขนย้ายสินค้า การบริหารวัสดุคงคลัง การแบ่งระบบหน้าที่ความรับผิดชอบในสายงานและการผลิต การตรงต่อเวลา การบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะมีการทำงานที่มีระเบียบแบบแผนนั่นเอง ซึ่งพร้อมกันนี้ธุรกิจยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้าของผู้ประกอบการเองอีกด้วย เพราะ Logistic เป็นระบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพที่ค่อนข้างสูงในสายตาผู้คนทั่วไป

ปัจจุบันในวงการธุรกิจมีการแข่งขันช่วงชิงฐานลูกค้าระหว่างกันที่สูงมาก ธุรกิจที่มีบริการที่ทันสมัยสามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วโดยทันที จะเป็นผู้ที่ได้เปรียบในการแข่งขันที่สุด ซึ่ง Logistic ถือเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ เพราะตัวระบบการจัดการถูกออกแบบมาให้สามารถส่งสินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในทุกๆที่ทั่วโลก บริษัทที่เอาระบบ Logistic มาใช้จึงได้เปรียบกว่าบริษัทอื่นตรงที่สามารถกระจายสินค้าได้ในอาณาเขตที่กว้างกว่า ไม่จำกัดเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น

Logistic สามารถช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนของผู้ประกอบการได้อย่างมาก เพราะระบบนี้จะเข้ามากำกับดูแลการเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังลูกค้ารวมถึงคลังสินค้าของผู้ประกอบการด้วย โดยมีเป้าหมายลดต้นทุนในเรื่องดังกล่าวให้มากที่สุดในขณะที่ประสิทธิภาพต่างๆยังคงอยู่และอาจเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งอาจใช้วิธีการบรรจุสินค้าด้วยซองพลาสติกแทนที่การห่อด้วยกระดาษที่มีต้นทุนสูงกว่าและยังกินพื้นที่มากกว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจึงทำให้การส่งในแต่ละเที่ยวได้จำนวนที่มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีผลกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง

หากผู้ประกอบการนำ Logistic มาใช้อย่างตรงตามหลักการของมัน ผู้ประกอบการก็ไม่จำเป็นต้องไปนั่งกังวลเรื่องสินค้าตกค้างอยู่ในคลังอีกเลย เนื่องจากระบบการจัดการจะทำให้สินค้าทุกชนิดที่ผู้ประกอบการขายนั้นนำส่งไปถึงมือลูกค้าโดยทันทีและในเวลาที่น้อยที่สุด เงินทุนจึงไม่ไปจมอยู่กับสินค้าอีก ทั้งยังไม่ต้องเช่าอาคารหรือโกดังเพื่อสต็อกสินค้าเพิ่มเติมอีกด้วย จึงเป็นการประหยัดต้นทุนในทางอ้อมที่ดีและน่าสนใจมากอีกวิธีหนึ่ง

เป็นคุณประโยชน์ที่เห็นได้ชัดมากในเรื่องนี้ของตัวระบบ Logistic ที่ช่วยให้สินค้าของผู้ประกอบการสามารถส่งไปถึงมือลูกค้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงจัดเป็นการรักษาผลประโยชน์และส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคู่แข่ง เพราะต้องเข้าใจว่าลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าจากทางผู้ประกอบการนั้นจะให้ความสำคัญในเรื่องของเวลาการจัดส่งมากเป็นพิเศษ หากสินค้าที่สั่งไปเกิดมาส่งไม่ตรงตามเวลาผู้ประกอบการอาจจะโดนตำหนิจากทางลูกค้าได้ จนบางครั้งอาจถึงกับยกเลิกการสั่งสินค้าไปเลยก็ได้

“งานบริการส่งถึงที่” ถูกนับเป็นเครื่องมือสนับสนุนการขายที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะในความเป็นจริงก็อย่างที่ทราบดีว่าลูกค้าทุกคนมีทางเลือกมากกว่าคนขายและทางเลือกส่วนใหญ่มักจะไปจบลงที่ความสะดวกสบายของตัวลูกค้าเองเป็นหลัก หากธุรกิจไหนสามารถนำส่งสินค้าไปสู่ลูกค้าได้โดยตรง ธุรกิจนั้นจะมีความได้เปรียบที่สูงมาก และมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและปิดการขายได้เร็วกว่าคู่แข่ง

ระบบ Logistic จะลงไปจับในเนื้อหาข้อมูลที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยในทุกๆขั้นตอนที่เล็กมาก ทำให้ผู้ประกอบการสามารถทราบที่มาที่ไปในส่วนต่างๆได้ และเมื่อมองในภาพรวมที่กว้างขึ้นจะทำให้ผู้ประกอบการพบทั้งส่วนที่สำคัญกับส่วนที่ไม่สำคัญ ผู้ประกอบการจึงสามารถเพิ่มหรือลดทอนส่วนผสมที่ไม่เกิดประโยชน์ทิ้งไปได้ ยกตัวอย่าง กรณีที่ลูกค้าร้องเรียนว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐานและไม่สะอาด ถ้าเป็นระบบเก่าผู้ประกอบการก็ต้องโละและเรียกคืนสินค้าทั้งหมดซึ่งจะสิ้นเปลืองงบประมาณในการลำเลียงคืนเป็นอย่างมากและทั้งยังต้องแบกรับภาระขาดทุนอีกด้วย แต่ถ้าผู้ประกอบการใช้ระบบ Logistic ผู้ประกอบการจะทราบว่าสินค้าที่มีปัญหาเกิดขึ้นที่พื้นที่ใด สายส่งไหน และรหัสสินค้าคืออะไร แล้วจึงทำการเรียกคืนเฉพาะในล็อตนั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประหยัดแล้วยังลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้ ทั้งยังทำให้สามารถบริหารงานได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
Logistic เป็นสิ่งที่ธุรกิจยุคใหม่จะต้องให้ความสำคัญพร้อมทั้งนำวิธีการและแนวคิดหลักมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวธุรกิจของผู้ประกอบการมากที่สุด ซึ่งประเทศไทยยังถือว่าขาดในส่วนนี้ไปค่อนข้างมาก จึงทำให้ต้นทุนเฉลี่ยหมดไปกับค่าขนส่งสินค้าเสียส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวแพงขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงสมควรที่จะเริ่มศึกษาและนำเอา Logistic มาปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้แล้วนับตั้งแต่วันนี้ เพราะที่สุดแล้วผู้ที่ริเริ่มทำอะไรก่อนก็มักจะเป็นจะได้เปรียบและประสบความสำเร็จก่อนผู้ตามอยู่วันยังค่ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น