credit: นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 333
อาจารย์นิพนธ์ ฉิมเฉลิม นักโภชนาการอิสระ แนะนำว่า “เราสามารถนำ มันฝรั่ง มาทำอาหารสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น ต้มให้สุกแล้วบด จากนั้นโรยเกลือและพริกไทยป่นเล็กน้อย หรือถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น ควรนำส่วนผสมที่ได้ห่อกระดาษฟรอยด์แล้วนำเข้าอบในเตาอบ บดเนื้อ มันฝรั่ง ต้มสุกผสมในน้ำแกง เช่น เมนูหัวปลาต้มเผือก จะทำให้น้ำแกงเข้มข้นขึ้น หรือทำเป็นขนม โดยใช้แทนมันเทศหรือเผือก เช่น บัวลอยเผือก มันทิพย์ เผือกทิพย์ ก็ได้”
แท้จริงแล้ว มันฝรั่ง เป็นอาหารสำหรับผู้ต้องการ ลดน้ำหนัก(และควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือดชนิดหนึ่ง) เพราะให้แคลอรี่ต่ำ มันฝรั่งต้ม 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 75-80 แคลอรี่เท่านั้น นอกจากนี้ มันฝรั่ง ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียม วิตามินบี 1 และวิตามินบี 6
การเลือกซื้อ
เลือกหัวที่มีสี เหลืองทอง ไม่มีปุ่มตาของรากที่กำลังงอกหรือหัวที่มีจุดสีเขียวอ่อน นั่นแสดงว่า เป็น มันฝรั่ง ที่เก็บไว้นาน เนื้อจะไม่อร่อย มันฝรั่ง ที่มีจุดเขียวๆ และมีรากงอกออกมามีส่วนประกอบของสารอัลคาลอยด์ (alkaloid) ที่เรียกว่า ซาโคนีน (chaconine) และโซลานีน (solanine) ซึ่งหากมีปริมาณมากเกินไปจะเป็นพิษร้ายแรงได้ จึงควรคัดหัวที่มีจุดเขียวทิ้งไป สำหรับผู้แพ้สารโซลานีน แม้ได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็อาจำให้เป็นไมเกรนได้
www.lingothailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น