วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เนื้อเพลงใหม่!!! Capital Cities - Safe and Sound


( ^◡^)っ✂❤
 เรียนภาษาอังกฤษ สนุก ง่ายกว่าที่คิด
BTS Ari Station / 02.270.0249


นำเสนอเำำพลง คู่หูดูโอ้สุดกวน 

กับเอมวีเจ๋งฮา  เพลงเพราะ มาให้ได้เสพย์กันนะคะ






I could lift you up
I could show you what you wanna see
And take you where you wanna be

You could be my luck
Even if the sky is falling down
I know that we'll be safe and sound

We're safe and sound

I could fill your cup
You know my river won't evaporate
This world we still appreciate

You could be my luck
Even in a hurricane of frowns
I know that we'll be safe and sound

Safe and sound
We're safe and sound
Safe and sound
We're safe and sound
Hold your ground
We're safe and sound
Safe and sound

I could show you love
In a tidal wave of mystery
You'll still be standing next to me

You could be my luck
Even if we're six feet underground
I know that we'll be safe and sound

We're safe and sound

Safe and sound
Safe and sound
Hold your ground
Safe and sound

I could lift you up
I could show you what you wanna see
And take you where you wanna be

You could be my luck
Even if the sky is falling down
I know that we'll be safe and sound

I could lift you up
I could show you what you wanna see
And take you where you wanna be

You could be my luck
Even if the sky is falling down
I know that we'll be safe and sound

We're safe and sound
We're safe and sound
We're safe and sound
We're safe and sound

Safe and sound
We're safe and sound
Safe and sound
We're safe and sound
Hold your ground
We're safe and sound
Safe and sound
We're safe and sound



วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เนื้อเพลงดัง Lorde - Royals ❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤



( ^◡^)っ✂❤
 เรียนภาษาอังกฤษ สนุก ง่ายกว่าที่คิด
BTS Ari Station / 02.270.0249




นักร้องสาวสวยเสียงดี มากความสามารถ  

Lorde เเละ เพลงใหม่ของนางค่ะ  





I've never seen a diamond in the flesh
I cut my teeth on wedding rings in the movies
And I'm not proud of my address
In the torn up town, no post code envy

But every song's like:
Gold teeth
Grey Goose
Tripping in the bathroom
Bloodstains
Ball gowns
Trashing the hotel room

We don't care, we're driving Cadillacs in our dreams

But everybody's like:
Crystal
Maybach
Diamonds on your timepiece
Jet planes
Islands
Tigers on a gold leash
We don't care, we aren't caught up in your love affair

And we'll never be royals (royals)
It don't run in our blood
That kind of lux just ain't for us, we crave a different kind of buzz
Let me be your ruler (ruler)
You can call me queen bee
And baby I'll rule, I'll rule, I'll rule, I'll rule
Let me live that fantasy
My friends and I we've cracked the code
We count our dollars on the train to the party
And everyone who knows us knows
That we're fine with this, we didn't come from money

But every song's like:
Gold teeth
Grey Goose
Tripping in the bathroom
Bloodstains
Ball gowns
Trashing the hotel room
We don't care, we're driving Cadillacs in our dreams

But everybody's like:
Crystal
Maybach
Diamonds on your timepiece
Jet planes
Islands
Tigers on a gold leash
We don't care, we aren't caught up in your love affair
And we'll never be royals (royals)
It don't run in our blood
That kind of lux just ain't for us, we crave a different kind of buzz
Let me be your ruler (ruler)
You can call me queen bee
And baby I'll rule, I'll rule, I'll rule, I'll rule
Let me live that fantasy

 

ooh ooh oh ooh
We're better than we've every dreamed
And I'm in love with being queen

ooh ooh oh ooh
Life is great without a care
We aren't caught up in your love affair

And we'll never be royals (royals)
It don't run in our blood
That kind of lux just ain't for us, we crave a different kind of buzz
Let me be your ruler (ruler)
You can call me queen bee
And baby I'll rule, I'll rule, I'll rule, I'll rule

Let me live that fantasy


www.lingothailand.com

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รูปภาพบรรยากาศการเรียนภาษาอังกฤษที่ BTS ค่ะ



ᕙ( ^‿ゝ^ c)
ลองนำรูปภาพ บรรยากาศ Training ของ BTS Class มาให้ชมกันนะคะ 

น่ารักกันจัง ^_^

https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/156308_10151563133977393_324916441_n.jpg





เนื้อเพลง Shot at Night - -ของวงรุ่นใหญ่The Killers Lyrics


( ^◡^)っ✂❤
 เรียนภาษาอังกฤษ สนุก ง่ายกว่าที่คิด
BTS Ari Station / 02.270.0249


พูดถึงวง alternative ใครก็ต้องรู้จักวงรุ่นใหญ่อย่าง The Killers 
ที่ทำเพลงฮิตให้หลายคนต้องจดจำ
แอดมินเลยนำเพลงใหม่ของพวกเค้ามาฝากกัน
ว่าจะโดนกันมากแค่ไหน 




Once in a lifetime, the suffering of fools
To find our way home, to break in these palms
Once in a lifetime (Once in a lifetime)
Once in a lifetime

Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious

Once in a lifetime, the breaking of the roof
To find that our home, has long been out grown
Draw me a life line, 'cause honey I got nothing to lose
Once in a lifetime (Once in a lifetime)
Once in a lifetime

Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night

Look at my reflection in the mirror
Underneath the power of the light
Give me a shot at the night
Give me a shot at the night
Give me a shot at the night
I feel like I'm losing the fight

Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night

Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night
Give me a moment, some kinda mysterious
Give me a shot at the night


www.lingothailand.com 

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ใน 3 ยุค



สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณ

Credit by  FlukeNa(postjung)



เป็นอนุสาวรีย์ซึ่งแกะสลักด้วยงาช้างจำนวนมากมายนำมาประกอบกันเป็นรูป เทพเจ้าซีอุส หรือ

"จูปิเตอร์" ในท่านั่งงามสง่าบนบัลลังก์สีทอง มีความสูงขององค์เทวรูป 58 ฟุต พระหัตถ์ซ้ายทรงคธา
พระหัตถ์ขวารองรับ รูปปั้นแห่งชัยชนะ ( A SMALL FIGURE OF VICTORY) มีเครื่องประดับที่ทำ
ด้วยทองคำล้วน นายช่างผู้แกะสลักและก่อสร้างคือ ฟีดีอัส สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 53 - ค.ศ. 111 เป็น
เทวรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวกรีกโบราณให้ความเคารพนับถือมากที่สุดประดิษฐานอยู่ในเมืองโอลิมเปียประเทศ
กรีซ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์เก่าแก่นับเป็นต้นกำเนิดแห่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งหนึ่งและเป็นต้นกำเนิด
แห่งปฏิมากรรมที่สำคัญ จนนำไปเป็นเบบอย่างในการสร้าง สนามกีฬาโอลิมปิกกับปราสาทพาซีออนและวัด
ต่างๆ ในกรุงเอเธนส์ แต่ได้พังทลายลงเพราะเหตุแผ่นดินไหว ปัจจุบันจึงหาซากหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไม่
ได้แล้ว นอกจากในภาพวาด และภาพในเหรียญโบราณรวมทั้งคำเล่าลือยกย่องถึงความศักดิ์สิทธิ์และวิจิตร
พิสดารมาตราบเท่าทุกวันนี้


เป็นวิหารที่สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนเพื่อถวาย เทพเจ้าอาร์เทมิส ผู้มาจากสรวงสวรรค์ เป็นผู้ช่วยให้ชาว
เมืองพ้นจากความหายนะ และภัยพิบัติทั้งปวง อยู่ที่ เมืองเฟฟิอุส ประเทศกรีซ ไม่ปรากฎปีที่สร้าง เป็น
วิหารขนาดใหญ่ซึ่งมีเนื้อที่กว้างถึง 54,720 ตารางฟุต ตัววิหารกว้าง 160 ฟุต ยาว 342 ฟุต มีเสาหิน
อ่อนด้านละ 20 ต้น ด้านหน้าและด้านหลังอีกด้านละ 8 ต้น แต่ละต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 6 ฟุต และสูง
60 ฟุต หลังคามุงด้วยกระเบื้องหินอ่อน นับว่าเป็นวิหารที่สวยวามที่สุดในยุคโบราณ ซึ่งในปัจจุบันนั้น
เหลือเพียงซากของเสาหินอ่อนที่ตั้งตระหง่าน สามารถมองเห็นถึงอารยธรรมที่เก่าแก่ และความรุ่งเรือง
ของกรีซในยุคอดีต เป็นการรวมงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เข้ากันได้อย่างดี ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว
เข้ามาเยี่ยมชมวิหารเเห่งนี้อยู่มิขาดสาย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรีซด้วย


นับเป็นสถานที่อันมีค่ายิ่งทางประวัติศาสตร์ เพราะสวนลอยแห่งนี้สร้างขึ้นเหนือพื้นดินบนพื้นที่กึ่ง
ทะเลทราย ก่อเป็นเนินสูงซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ สูงถึง 100 ฟุต แต่ละชั้นสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก
และปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมากมาย อีกทั้งมีระบบชลประทานชักน้ำตกเบื้องล่างขึ้นไปยังชั้น
สูงสุดแล้วจึงปล่อยให้ไหลลงมาสู่ชั้นต่างๆ ทุกชั้นมีกำแพงล้อมรอบ พ่อค้าวานิชที่เดินทางผ่านทะเล
ทรายแห่งนี้จะเห็นสวนลอยอันงดงามแต่ไกลเมื่อเข้าสู่เขตตัวเมือง พระเจ้าเนบูซาด์เนซซาร์ เป็นผู้สร้าง
เมื่อประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อเป็นสวนที่ประทับของพระองค์และพระมเหสี ปัจจุบันสวนลอย
บาบิโลนแห่งนี้ได้พังทลายสูญสิ้นไปไม่เหลือไว้เม้แต่ซาก สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่นั้นก็มีเพียงแต่ นิยายและ
คำเล่าลือถึงความสวยงามเท่านั้นเท่านั้น


ตั้งอยู่บนเกาะฟาโรสริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนหน้าเมืองอเล็กซานเดรียนของประเทศอียิปต์
ตัวอาคารสร้างด้วยลายหินอ่อนสีขาวสลักลวดลายวิจิตรงดงามมาก สูงประมาณ 400 ฟุต ทางขึ้นเป็น
บันไดวนไปจนถึงยอดซึ่งมีตะเกียงแก๊สขนาดใหญ่ที่ให้แสงสว่างมองเห็นออกไปไกลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ทำให้อเล็กซานเดรียนเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญยิ่ง แต่ประภาคารแห่งนี้ได้พังทลายลงเมื่อครั้งเกิดแผ่นดิน
ไหวในศตวรรษที่ 13 จึงไม่มีอะไรเหลือไว้ให้เป็นอนุสรณ์นอกจากชื่อเสียงที่โด่งดังและประวัติศาสตร์ที่ได้
จารึกเอาไว้ ทำให้ยากที่จะลืมเลือนแม้ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานนับพันปีแล้วก็ตาม
เป็นเทวรูปของเทพเจ้าแห่งศิลปของชาวกรีซ ซึ่งมีพระนามว่า "โคโลสซูส" หรือ เทพเจ้าอพอลโล
ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวกรีซ หล่อด้วยทองสำริดในท่ายืนสูง 100 ฟุต มือขวาถือประทีป ยืนถ่างขา
คร่อมปากอ่าวให้เรือสินค้าลอดผ่านไปมาได้ กษัตริย์ชาเรสแห่งลินดัส เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อ 280 ปีก่อนคริสตกาล
หลังจากก่อสร้างได้ 60 ปี ก็พังทลายลงเพราะเหตุเผ่นดินไหวเมื่อ 224 ปีก่อนคริสตกาล และไม่มีใครเอาใจใส่
ซ่อมแซมเป็นเวลาติดต่อกัน 900 ปี จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ซากเศษทองเหลืองก็ถูกขายให้ชาวเมืองซารา
เซนส์ เพื่อนำไปหล่อใช้ทำเป็นอาวุธในการทำสงครามจนหมดสิ้น สิ่งมหัศจรรย์อันล้ำค่าชิ้นนี้นี้จึงสูญสลายไป
อย่างน่าเสียดายเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำเท่านั้น
นับเป็นสุสานที่ถือกันว่ามีความสวยงามที่สุดในโลก อยูที่เมืองฮาลินาซัส ประเทศเปอร์เซีย จัดสร้าง
โดยพระนางอาเตมีเชีย พระมเหสีของพระเจ้ามุสโซลุส เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของพระสวามี วัสดที่ใช้ในการก่อ
สร้างเป็นหินอ่อนล้วน มีส่วนสูง 140 ฟุต ฐานโดยรอบยาวถึง 460 ฟุต ชั้นบนสุดเป็นพื้นสี่เหลี่ยมเล็กกว่า
ฐานล่าง แกะสลักรูปพระเจ้ามุสโซลุสประทับราชรถเทียมม้าประดับด้วนลวดลายสวยงามยิ่ง สร้างขึ้นในราว
ค.ศ. 156-190 สุสานแห่งนี้ได้พังทลายลงหมดสิ้นเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหว ในคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 เหลือ
ไว้แต่ซากปรักหักพังบางส่วนที่ พิพิธภัณฑ์บริติชมิวเซียมของอังกฤษ ได้นำชิ้นส่วนเหล่านั้นมาเก็บอนุรักษ์
ไว้เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษา
ปิรามิดคือ สถานที่เก็บพระบรมศพของกษัตริย์แห่งอียิปต์โบราณ มีลักษณะเป็นกรวยเหลี่ยม
ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทะเลทรายอันร้อนระอุ และหนาวเย็นในเวลากลางคืน ปิรามิดที่ได้รับการยกย่อง
ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้แก่ ปิรามิดเห่งเมืองกิเซห์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของ พระเจ้าคีออปส์
(CHEOPS) หรือ คูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 3,500 ปี นับอายุจนถึง
ปัจจุบันก็กว่า 5,000 ปีล่วงมาแล้ว ถือเป็นปิรามิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อยูที่กลางทะเลทรายห่างจากกรุง
ไคโรเมืองหลวงแห่งอียิปต์ปัจจุบันประมาณ 4 ไมล์ ปิรามิดแห่งนี้เดิมสูง 481.4 ฟุต แต่ปัจจุบันเหลือเพียง
450 ฟุต ฐานกว้าง 768 ฟุต ใช้ทรายตัดเป็นแท่งรูปสามเหลี่ยมหนักประมาณก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อน
หนักถึง 16 ตัน โดยการนำเอามาซ้อนกันขึ้นไปเป็นทรงกรวยปิรามิด ซึ่งต้องใช้หินไม่น้อยกว่า 2,500,000
ก้อน รวมน้ำหนักกว่า 6,000,000 ตัน ฐานกินเนื้อที่ถึง 12 เอเคอร์หรือราว 20 ไร่ เชื่อกันว่าปิรามิดองค์นี้จะ
ทนแดดทนฝนอยู่ได้อีกนานกว่า 5,000 ปี และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของยุคโบราณสิ่งเดียวเท่านั้นที่มีอายุยืนยาว
มาจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวมาจากทุกมุมโลกเดินทางไปอียิปต์เพื่อมาชมปิรามิดแห่งนี้เป็นจำนวนมากทุกปี 
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง



เป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ตัวสนามเป็นรูปตึกวงกลม
ก่อด้วยหินทรายและอิฐประกอบกัน ภายในมีอัฒจรรย์สำหรับให้คนนั่งดูกีฬาซึ่งจุคนได้มากถึง 80,000
คนหรืออาจจะมากกว่านั้น ใต้อัฒจรรย์และใต้ดินมีห้องไว้ขังสิงโตและนักโทษที่รอการประหารชีวิตนับร้อย
ห้อง มีขนาดใหญ่วัดโดยรอบได้ 527 เมตร สูง 57 เมตร สร้างขึ้นราว พ.ศ. 72-80 ซึ่งหากนักโทษสามา
รถต่อสู้เอาชนะสิงโตได้ก็จะถูกปล่อยตัว บางครั้งใช้เป็นที่ประลองความเก่งกล้าของบรรดาอัศวินทั้งหลาย
ในยุคนั้น ปัจจุบันเหลือแต่ซากและโครงสร้างอันใหญ่โตมโหฬารไว้ให้แขกผู้ไปเยือนได้ชมเท่านั้น
เป็นสถานที่ฝังศพใต้ดินของกษัตริย์อียิปต์โบราณอีกแบบหนึ่งนอกเหนือไปจากปิรามิด อยู่ที่เมือง
อเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ อุโมงค์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า คาตาโกมบ์ (GATACOMBS) โดยขุดลึกเข้าไป
ในภูเขาหินทรายเป็นขั้นๆ บางตอนมีความลึกถึง 70-80 ฟุต มีทางเดินกว้าง 3-4 ฟุต ทางเดินจะวกไป
เวียนมาเป็นระยะทางนับร้อยไมล์ ผนังอุโมงค์ถูกเจาะเป็นช่องๆ ลึกเข้าไปเพื่อใช้เป็นที่บรรจุศพ มีแท่น
บูชาและตะเกียงดวงเล็กๆ แขวนไว้ บางส่วนของอุโมงค์แห่งนี้ได้ตบแต่งเอาไว้อย่างวิจิตรพิสดาร
สภาพในปัจจุบันยังคงความสมบูรณ์เอาไว้พอที่จะให้ผู้สนใจเข้าไปเที่ยวชมได้
สร้างจากอิฐสําหรับเป็นรั้วกั้นประเทศตามพรหมแดนด้านเหนือของจีน เพื่อป้องกันการรุกรานของพวก
ตาด พระเจ้าซิวั่งตี่ หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม"จิ๋นซีฮ่องเต้" เป็นผู้มีบัญชาให้เกณฑ์ชาวบ้านมาสร้าง ในปี
พ.ศ.300-329 มีความยาวถึง 1,684 ไมล์ ทอดตัวไปตามป่าเขา หุบเหว และแม่นำคล้ายกับพญามังกร
ยักษ์ ตัวกําแพงสูงจากพื้นดิน 20-30 ฟุต หนา 15-20 ฟุต บนกําแพงมีทางเดินกว้าง 10 ฟุต และทุก
ระยะ 300 ฟุต จะมีป้อมกับเชิงเทินอยู่ประมาณกว่า 15,000 แห่ง ใช้เวลาก่อสร้างไม่น้อยกว่า 10 ปี และ
ต่อมามีการสร้างต่อเติมอีกหลายครั้ง ใช้แรงงานที่เกณฑ์มาจากทั่วประเทศนับจํานวนล้านและมีผู้เสียชีวิต
เพราะการสร้างนี้นับหมื่นคน ปัจจุบันยังคงอยู่และถือกันว่าใครที่ได้เดินทางไปยังดินแดนของจีนทางภาค
เหนือแต่ไม่มีโอกาสได้ไปแวะเยี่ยมชมกำแพงเมืองจีนถือกันว่ายังไปไม่ถึงเมืองจีน
กองหินประหลาดนี้อยู่กลางทุ่งนาของเมืองซัลลิสเบอรี่ มณฑลวิลไซร์ประเทศอังกฤษ ห่างจากกรุงลอนดอน
ไปประมาณ 10 ไมล์ ประกอบด้วยก้อนหินขนาดใหญ่จำนวน 112 ก้อน มีทรงสูงตั้งเป็นรูปวงกลมซ้อน
อยู่เป็น3 รอบ ก้อนหินบางก้อนก็ล้มนอน บ้างตั้งตรงและมีบางที่ขึ้นไปนอนขวางอยู่บนยอดวงกลมรอบ
นอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 ฟุต มีหินทั้งหมด 30 ก้อนแต่ละก้อนสูง 13 ฟุต วงกลมรอบกลางมีเส้นผ่า
ศูนย์กลาง 76 ฟุต มีหิน 40 ก้อน และมีอยู่ 2 ก้อนที่ตั้งสูงถึง 22 ฟุต วงในสุดนั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50
ฟุต มีหินอยู่ 42 ก้อน หินแต่ละก้อนมีน้ำหนักมากเป็นตันๆและมีผู้พบเห็นว่าตั้งอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่คริสตกาล
ถึง 1,700 ปี ในระแวกใกล้เคียงเป็นทุ่งกว้างและไม่มีภูเขาหรือสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยหินอยู่เลย จึงเป็นที่น่า
สงสัยว่า ผู้สร้างนำหินมาจากไหน และนำขึ้นไปวางซ้อนกันได้อย่างไร

หอเอนประวัติศาสตร์แห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนอยู่ในเมืองปิซา ประเทศอิตาลี เริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1174
และเสร็จสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ. 1350 ซึ่งต้องใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 176 ปี มีความสูง 181 ฟุต มีอยู่ทั้งหมด
8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายวิจิตรสวยงามรองรับไว้โดยรอบ ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อเริ่ม
สร้างได้ 4-5 ชั้นหอนี้ก็เริ่มเอียงลงแต่ไม่ถึงกับพังทลาย จนเมื่อสร้างเสร็จก็มีความเอียงออกจากแนวดิ่ง
ของฐานถึง 14 ฟุต กาลิเลโอ เคยใช้หอแห่งนี้เป็นที่ทดลองเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนักวัตถุและกฎแห่ง
แรงดึงดูดของโลก ปัจจุบันหอเอนเมืองปิซาก็ได้เอียงลงมาจากเดิมอีกเล็กน้อย ทางการอิตาลีกำลังบูรณะ
และป้องกันเพื่อให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสืบต่อไป

เป็นเจดีย์รูปแปดเหลี่ยมตามศิลปของจีน มีความสูง 261 ฟุต สูง 8 ชั้น อยู่ในกรุงนานกิง ประเทศจีน
หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียวทั้งหมด ชายหลังคามีกระดิ่งแขวนไว้ 80 ลูก และมีโคมไฟประดับ
อีกจำนวนมาก องค์เจดีย์ก่อด้วยอิฐประดับกระเบื้องเคลือบ ยอดเจดีย์เป็นรูปกลมปิดทอง เดิมมีอยู่เพียง
3 ชั้น ต่อมาในสมัยจักรพรรดิยุ่งโล้แห่งราชวงศ์เหม็ง ได้โปรดให้สร้างเสริมขึ้นไปอีกจนสูงถึง 9 ชั้นในปี
ค.ศ.1430 มีสายโซ่โยงลงมา 8 เส้น และมีกระดิ่งแขวนตามสายโซ่อีก 72 ลูก เวลามีลมพัดมาจึงเกิดเสียง
ดังไพเราะมาก แต่ถูกพวกกบฎไต้เผิงทำลายและเก็บข้าวของมีค่าไปเสียหมด ปัจจุบันอาจไม่งดงามเท่ากับ
สมัยก่อนแต่ยังตั้งตระหง่านและคงความวิจิตรเอาไว้ได้ตามสมควร

เดิมเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนาอยู่ในกรุงคอนสแตนตินโนเปิล ประเทศตุรกี สร้างขึ้นโดยจักพรรดิ
คอนสแตนติน เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปีจึงแล้วเสร็จ ต่อมาถูกพวกก่อการ
ร้ายบุกทำลาย พระจักรพรรดิจูสติเนียนซึ่งได้มามีอำนาจเหนือตุรกีจึงได้สร้างขึ้นใหม่โดยใช้เวลาสร้างอีก 5 ปี
โดยได้นำสิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับเอาไว้มากมาย เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงมีการเฉลิมฉลองอย่างใหญ่โตมโห
ฬาร แต่แล้วกลับถูกแผ่นดินไหวทำให้เกิดการแตกร้าวต้องให้ช่างมาซ่อมแซมจนอยู่ในสภาพเดิม พระเจ้าโมฮัม
เหม็ดที่ 2 ได้มามีอำนาจเหนือตุรกีต่อจากพระจักรพรรดิจูสติเนียนและพระองค์ทรงเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม
จึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้กลายมาเป็นสุเหร่าเสีย แต่ยังทรงรักษาความงามเอาไว้เช่นเดิม สุเหร่าแห่งนี้มีเนื้อที่
700 ตารางเมตร ภายในมีเสาค้ำที่สลักและประดับเอาไว้อย่างวิจิตรงดงามถึง 108 ต้น อยู่ชั้นล่าง 40 ต้น
เป็นเสาขนาดใหญ่ และขนาดเล็กอีก 68 ต้นอยู่ชั้นบน หลังคาสร้างเป็นรูปซาละเปามีหอแหลมล้อมรอบมากมาย
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน

นครวัต-นครธม เป็นปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ของพวกขอม โดนนครธมได้ถูกสร้างขึ้นก่อนเมื่อประ
มาณ ค.ศ. 1345-1412 ในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจของขอม มี
เนื้อที่ประมาณ 25,000 ไร่ ตัวปราสาทสร้างด้วยหินศิลาแลง ประกอบด้วยปราสาทกระจัดกระจายอยู่ในป่าไม่
ต่ำกว่า 600 แห่งมีคูเมือง กำแพง ป้อมปราการสวยงามแข็งแรงมาก เป็นเทวสถานและพุทธศาสนสถานในบริ
เวณเดียวกัน นครวัตเป็นศิลปที่สร้างด้วยหินเช่นเดียวกับนครธมอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย สร้างประมาณปี ค.ศ.
1643 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ( หรือพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ) มีเนื้อที่นับหมื่นไร่ เป็นปราสาทหิน 3 ตอน
หรือ 3 ชั้น มีคูเมืองขนาดใหญ่เป็นส่วนประกอบมีเขื่อนก่อสร้างด้วยศิลารอบทั้ง 4 ด้าน และมีสะพานหินที่ใหญ่
โตมั่นคงแข็งแรงที่สุดในโลกทอดข้ามเข้าสู่พระนคร นครวัตได้สร้างวิจิตรพิสดารมากกว่านครธม แต่นักประ
วัติศาสตร์และโบราณคดีได้ยกย่องให้ปราสาทหินทั้งสองเป็นสิ่งสูงค่าทางศิลปของโลกซึ่งสร้างขึ้นด้วยน้ำมือ
ของมนุษย์ อยู่ห่างเมืองเสียมราฐของกัมพูชาประมาณ 8 กิโลเมตร

เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งพระเจ้าชาห์เยฮัน แห่งเมืองอัคระประเทศอินเดีย
สร้างเป็นสุสานฝังศพของ พระนาง มุมทัชมาฮาล ราชินีอันเป็นที่รักยิ่ง สร้างขึ้นริมฝั่งแม่น้ำยมนา ในปี พ.ศ.
2173 ใช้เวลาก่อสร้างถึง 23 ปีจึงแล้วเสร็จ ทุกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลตามแบบสถาปัตยกรรมเปอร์
เซีย โดยฝีมือของสถาปนิก อัสตาด ไอสา ( USTAD ISA ) ใช้เงินก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 50,000,000 เหรียญอเมริ
กัน ภายในประดับด้วยหินอ่อนสลักฉลุเป็นลวดลายวิจิตรตระการตาแทรกเสริมด้วยทับทิม และนิลตรงกลาง ภาย
ในหลังคาเป็นโดมใหญ่มีแท่นวางหีบศพที่ทำด้วยหินอ่อน แต่ทว่าตัวศพจริงๆ นั้นได้นำไปฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน
ตรงกับตำแหน่งที่วางหีบศพนั้น ตัวสุสานกว้าง 130 ฟุต ยาว 130 ฟุต ตรงกลางสร้างเป็นรูปโดมสูง 200 ฟุต
นับได้ว่าทัชมาฮาลเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าสมกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก อยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สร้างโดย
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.1661 ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ คนงาน 30,000 คน
และใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จ ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย
ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระ
การตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง ห้องกระจกชื่อ ฮอล ออฟ มิเรอร์ เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็น
ห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมัน ในสมัยสงครามโลกครั้งแรกและใช้เป็นที่ลงนาม
ในเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14ทรงทำการก่อสร้าง
เองภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายส์อันสวยงามดุจสวนสวรรค์
การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์แห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกอง
ทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางแมรี่อังตัวเนต ประหารด้วย "กิโยติน"
ในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1789 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้
เป็นตึกระฟ้าอยู่บนเกาะแมนฮัตตัน และเคยได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกมาแล้ว แม้ต่อมาจะมีสิ่งก่อ
สร้างในยุคปัจจุบันอื่นมาทัดเทียม แต่ชื่อเสียงและความวิจิตรของ "ตึกเอ็มไพร์สเตท" ยังคงได้รับการยกย่อง
มาตราบเท่าทุกวันนี้ เป็นตึกที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเสริมเหล็กสูง 1,248 ฟุต แบ่งเป็น 108 ชั้น มีหน้าต่าง
6,500 บาน มีเนื้อที่ 2,158,000 ตารางฟุต มีลิฟท์ขึ้น-ลง 63 แห่ง ตึกแห่งนี้จุคนได้ประมาณ 25,000 คน
แต่ถ้าจำเป็นจะจุได้ถึง 80,000 คน ใช้อิฐก่อสร้างถึง 10,000,000 ก้อน ส่วนสำคัญคือ จากชั้นล่างถึงชั้นที่
86 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีที่ไม่เป็นสนิมคิดเป็นน้ำหนัก 730 ตัน บนยอดสุดมีโดมสูงขึ้นไป
อีก 200 ฟุต ใช้เป็นที่ทำงานของบริษัทใหญ่ๆ กว่า 600 บริษัท รับประกันความคงทนได้นานถึง 6,000 ปี ตึก
แห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1929 แล้วเสร็จเมื่อ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1937 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี ใช้
เงินก่อสร้างราว 2,000,000,000 บาท หรือ 5,000,000 ปอนด์สำหรับเงินในสมัยนั้น

เป็นเขื่อนยักษ์ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันอุทกภัยและเพื่อการชลประทาน รวมทั้งการผลิต
กระแสไฟฟ้า นับเป็นเขื่อนที่สามารถเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงได้ จนได้รับการยกย่องแม้ว่าปัจจุบันจะมี
เขื่อนที่ใหญ่กว่าถูกสร้างขึ้นมาแล้วก็ตาม เขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นมากั้น แม่น้ำโคโลราโด อยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับ
อริโซน่า ของสหรัฐอเมริกา บริเวณหุบเขาแบล็คแคนยอน ตัวเขื่อนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กยาว 1,282 ฟุต
สูง 727 ฟุต มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1,835,000 กิโลวัตต์ เหนือเขื่อนเป็นทะเลสาป "มีท" ยาวตามแม่น้ำถึง
115 ไมล์ มีบริเวณทั้งหมด 225 ไมล์ ตั้งชื่อตาม มิสเตอร์มีท อธิบดีกรมการฟื้นฟูที่ดินของสหรัฐอเมริกา
ในสมัยนั้น ส่วนตัวเขื่อนตั้งชื่อตาม ประธานาธิบดีฮูเวอร์ ผู้ลงนามใน พ.ร.บ.โบลเดอร์ แคนยอน ให้สร้าง
เขื่อนแห่งนี้ขึ้นมา

เป็น "สะพานแขวน" ที่ยาวที่สุดในโลกในอดีต ทอดข้ามอ่าวทางตอนเหนือของ เมืองท่าซานฟราน
ซิสโก สหรัฐอเมริกา เฉพาะช่วงสะพานตอนกลางยาวถึง 4,200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต ข้างสะพานทั้งสองด้านมี
สะพานช่วงสั้นต่อกันรวมทั้งหมดเกือบ 7 กิโลเมตร มีหอคอยเหล็กสองข้างสูงข้างละ 746 ฟุต ลวดเคเบิ้ลที่
โยงทอดเป็นตัวดึงน้ำหนักสะพาน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 นิ้ว ข้างละ 2 เส้นรวม 4 เส้นยาว 107,000
ไมล์ และยังมีลวดโยงเส้นเล็กๆอื่นๆ อีก 27,572 เส้น ตัวสะพานอยู่สูงกว่าระดับน้ำในอ่าว 220 ฟุต ใช้เป็น
ทางรถยนต์โดยสาร 6 ทาง รถยนต์บรรทุก 3 ทางและทางรถไฟอีก 2 ทาง สะพานแห่งนี้เริ่มสร้างในปี ค.ศ.
1933 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1937 ใช้เงินประมาณ 35,000,000 เหรียญ นับเป็นสะพานแขวนยาวที่สุดแห่งแรก
ของโลก
นับเป็นต้นตระกูลของเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาใหญ่โตที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1939 ที่อู่ริมฝั่งแม่น้ำไคลต์ในสก๊อตแลนด์ มีราคา 25,000,000 เหรียญสหรัฐ ในเวลา
นั้น มีความยาว 1,004 ฟุต สูง 180 ฟุต หนัก 80,773 ตัน อัตราความเร็ว 30 น๊อต/ชั่วโมง บรรทุกผู้โดย
สารได้ 2,075 คน บนดาดฟ้ามีเนื้อที่ 3 เอเคอร์ ใช้สำหรับเป็นที่เล่นกีฬา ภายในเรือมีร้านอาหาร สำนักพิมพ์
สระว่ายน้ำ โรงพยาบาลและอุปกรณ์บริการความสุขอื่นๆ อย่างครบครัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 ได้ถูกดัด
แปลงเป็นภัตตาคาร โรงแรม และพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ อยู่ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา





วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สแลงน่ารู้ Slang from Down Under ... จาก Oz ค่ะ :)





Other Australian Slang

1. Aussie (pronounced as Ozzie) - means Australian.

2. Barbie - means barbecue 

3. Bush - the Outback. Basically, anywhere that isn't town

4. Sheila - while it is a female name, it's Aussie slang for girl or woman.

5. Mate - that's how Aussie guys address each other. Typically, they greet each other with "G'day, mate!".

6. Hooroo - contrary to what you may be thinking, this isn't an exotic animal. It simply means "Goodbye".

7. Oz -  Oz means Australia. 

8. Polly -  stands for "politician"

9. Roo - stands for kangaroo. 

10. Wuss - a coward



www.lingothailand.com 

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ปิดเทอม์นี้มาเรียนภาษาอังกฤษกับหลักสูตร Jolly Phonics กันค่ะ





หลักสูตร Jolly Phonics จาก U.K. เรียนภาษาอังกฤษ ยุคใหม่ สำหรับเด็ก



สถาบันสอนภาษา Lingo 
เรียนสอนติวภาษาอังกฤษ แปลภาษา learn thai 
เรียนภาษาอังกฤษ สนุก เร็ว ง่ายกว่าที่คิด 

                    >>  หลักสูตร JOLLY PHONICS จาก U.K.            


คอร์ส Jolly Phonics  (Age 3 to 8)
                            คุณ พ่อคุณแม่อาจเคยเห็นคำว่า Phonics ตามโรงเรียนและสถาบันสอนภาษาบ่อยครั้ง ทราบหรือไม่ว่า Phonics นั้นไม่ใช่การสอนออกเสียงภาษาอังกฤษให้เหมือนเจ้าของ ภาษาอย่างที่คุณพ่อคุณแม่บางท่านเข้าใจนะคะ แต่เป็นระบบการสอนอ่านเขียนให้เด็ก
วัยเริ่มเข้าโรงเรียน
  ระบบ Phonics ใช้หลักการผสมเสียง (Blending) ของตัวอักษรแต่ละตัวเพื่ออ่านเป็น พยางค์ คำ และประโยคตามลำดับ การสอนระบบ Phonics นี้เน้นการสอนให้เด็กเรียนตัว อักษร (รูปอักษร "s") ควบคู่ไปกับเสียง [s] มากกว่าการสอนชื่อตัวอักษร ("ตัวเอส") เมื่อเด็กรู้ว่า ตัวอักษรไหนมีเสียงอะไร เมื่อเห็นตัวอักษรนั้น แม้ในคำที่ไม่รู้จัก ก็จะสามารถ "ถอดรหัสเสียง" และผสมเสียงอ่านเป็นคำได้



"เรียนภาษาอังกฤษแนวใหม่ หมดยุคท่องจำแข่งนำเข้าเทคนิคใหม่สอนเด็กเล็ก"
                  จอ ลลี โฟนิคส์ (Jolly Phonics) คือ การสอนการออกเสียง (โฟนิคส์) ที่เน้นความสนุกสนาน ใช้ประสาทสัมผัสหลายด้าน และให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ โดยสอนการออกเสียงตัวอักษรภาษาอังกฤษกว่า 40 ตัวอักษรแก่เด็กอย่างรวดเร็ว และส่งเสริมให้เด็กๆ นำความรู้เรื่องการออกเสียงมาใช้ในการอ่านและเขียนคำต่างๆ ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้





See you soon!

www.lingothailand.com