Coca-Cola กับ Pepsi สองแบรนด์น้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีการต่อสู่กันมาอย่างยาวนานนับร้อยๆปี สงครามน้ำอัดลม (The Soda Wars)ของสองแบรนด์เกิดขึ้นได้อย่างไร และ มีเหตุการณ์สำคัญๆเกิดอะไรขึ้นบ้าง
- สงครามน้ำดำ/น้ำอัดลม เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1886 เมื่อ John S. Pemberton พัฒนาสูตรโค้ก(Coke)ต้นตำรับออกมา
- 13 ปี ต่อมาก็ถือกำเนิดน้ำดำ Pepsi-Cola โดยเภสัชกรชื่อ Caleb Bradham
- ยอดขาย Coca-Cola หรือ Coke ประมาณ ล้านแกลลอนต่อปี ต่อมา Pepsi ก็เข้ามาในตลาด
- Coke พัฒนาแพ็คเกจจิ้งเป็นแบบขวดคอนทัวร์ (ขวดแก้วขนาดเล็กดีไซน์้ิ้ิเอกลักษณ์เฉพาะที่มีการจดลิขสิทธิ์) มีการนำคนดังมาช่วยโฆษณา และรวมไปถึงขยายตลาดไปยุโรป ขณะที่ Pepsi ล้มละลายเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1
- 8 ปีให้หลัง Pepsi ล้มละลายเป็นครั้งที่ 2 แต่ในที่สุดก็ฟื้นกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
- ระหว่างที่อยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Pepsi เริ่มใช้โฆษณาเป็นครั้งแรก และรวมไปถึงเริ่มขายแบบกระป๋อง
- ช่วงปี 1950-1959 Coke มีโฆษณาทางทีวีครั้งแรกออนแอร์ช่วงวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ในช่อง CBS ขณะที่ Pepsi พยายามปรับแบรนด์ใหม่เพื่อไล่ตาม Coke ให้ทัน
- Coke ตัดสินใจเข้าตลาดหุ้น ในปี 1962 พร้อมทั้งเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ชื่อ Sprite ซึ่งกลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่ประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน
- Pepsi ควบรวมธุรกิจกับ Frito Lay เมื่อปี 1965 ตั้งเป็น PepsiCo ขึ้นมาเพื่อสู้ศึกน้ำดำจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ Diet Pepsi
- มูลค่าหุ้นของทั้งสองแบรนด์ที่ผ่านมา Pepsi ประสบความสำเร็จจากธุรกิจขนมคบเคี้ยวอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ขณะเดียวกัน Coke อยู่นิ่งๆในธุรกิจเครื่องดื่มอย่างเดียว
- แบรนด์เครื่องดื่มต่างๆในเครือ Coke ที่ทำให้มียอดขายสูงถึง 1 พันกว่าล้าน เหรียญสหรัฐฯ
- แม้ว่าแบรนด์เครื่องดื่มในเครือ Pepsi จะไม่แข็งแกร่งเท่า Coke นัก แต่ธุรกิจขนมขบเคี้ยวก็ใหญ่โตมาก
- Coke เป็นผู้นำตลาดโคล่า โดยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า Pepsi แต่ทว่า Pepsi ทำได้รายต่อปีได้มากกว่าเสียอีก
- ทั้งสองแบรนด์ต่างก็มีดาราคนดังเป็น Endorsement จำกันได้ไหมของฝั่ง Coke และ Pepsi
- นอกจากนี้ทั้งสองแบรนด์ยังมีการเปลี่ยนแปลงด้านโลโก้อย่างต่อเนื่อง วิวัฒนาการโลโก้ตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน
- ทั้งสองแบรนด์ก็รุกเข้าโลกดิจิตอลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ Social Media แต่ดูเหมือนว่า Coke จะนำ Pepsi ไปไกลอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น