จิ๋วแต่แจ๋ว คุณประโยชน์จากเมล็ดธัญพืชเพื่อสุขภาพ
credit: www.issue247.com
1. เมล็ดปอ
ต้นปอคือแหล่งโปรตีนและมีกรดไขมันที่จำเป็น เช่นโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 รวมถึงเส้นใยอาหารทั้งที่ละลายได้และละลายไม่ได้ อีกทั้งยังอุดมด้วยวิตามินตั้งแต่วิตามิน A, B1, B2, D และ E นอกจากนี้วิตามิน A ยังช่วยยับยั้งการสร้าง DNA ในเซลล์มะเร็ง ขณะที่วิตามิน B ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันกับโปรตีน บำรุงผิวพรรณ, เส้นผม, ดวงตา และตับ ที่สำคัญช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ส่วนวิตามิน D จะช่วยควบคุมแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย อีกทั้งยังเป็นบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาโครงสร้างของกระดูก
2. เมล็ดงา
เมล็ดงาเหล่านี้ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แมงกานีส,ทองแดง, เหล็ก, ฟอสฟอรัส, ซิงค์และแคลเซียม ซึ่งแมงกานีส, ฟอสฟอรัส และแคลเซียมจะช่วยบำรุงกระดูก ส่วนธาตุเหล็กจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและลำเลียงอ็อกซิเจนผ่านกระแสเลือด ขณะที่ซิงค์บำรุงกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน น้ำมันงาจะช่วยลดความดันโลหิตสูง ผ่อนคลายความเครียด รวมทั้งต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายแข็งแรง
3. เมล็ดเจีย
การรับประทานเมล็ดเจียจะได้รับแคลเซียมในปริมาณที่แนะนำในแต่ละวันประมาณ 18% และฟอสฟอรัส 27% ซึ่งช่วยบำรุงกระดูก รวมถึงมีเส้นใยอาหาร 33% ที่ช่วยในการย่อยอาหาร นอกจากนี้เมล็ดเจียยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 เกือบ 5 กรัมต่อน้ำหนัก 1 ออนซ์
4. เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันเพียง 1 ใน 4 ถ้วยจะมีวิตามิน E ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการอักเสบและช่วยทำให้วิตามินหลายตัวละลายได้ในไขมันเพื่อนำสารอาหารมาสู่เซลส์ นอกจากนี้เมล็ดทานตะวันยังเป็นแหล่งแร่ธาตุเซเรเนียมซึ่งจะช่วยซ่อมแซม DNA หรือเซลล์ที่เสียหายเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง อีกทั้งทำให้เกิดกระบวนการตายของเซลล์ซึ่งเป็นกลไกทำลายตัวเองที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อทำลายเซลล์ที่ผิดปกติ เมล็ดทานตะวันยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียมซึ่งจำเป็นสำหรับกระดูกที่แข็งแรงและช่วยลดความดันโลหิต, ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ, ปวดศีรษะไมเกรน และปวดเมื่อยร่างกายหรืออ่อนล้า ที่สำคัญเมล็ดทานตะวันยังเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยดีท็อกซ์และทำความสะอาดร่างกายได้ดีอีกด้วย
5. เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยแหล่งแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์มากมาย เช่น โปรตีน, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม, แมงกานีส, ซิงค์, เหล็ก, ทองแดง, วิตามิน B, วิตามิน K และวิตามิน E นอกจากนี้ยังมีแอล-ทริปโตเฟนซึ่งช่วยในการนอนหลับและลดระดับความเครียด ขณะที่ซิงค์ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน จากการศึกษาพบว่าเมล็ดฟักทองจะช่วยป้องกันการเกิดนิ่วและลดอาการอักเสบ
6. เมล็ดแฟลกซ์
เมล็ดแฟลกซ์สีน้ำตาลเข้มเหล่านี้คือแหล่งโอเมก้า 3 ชั้นดี เพียง 1 ช้อนโต๊ะก็ได้รับโอเมก้า 3 เกินกว่าปริมาณที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน ช่วยลดการอักเสบที่อาจทำให้เป็นโรคหอบหืด, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, ปวดศีรษะไมเกรนและโรคกระดูกพรุน กรดอัลฟา-ลิโอเลนิก คือโอเมก้า 3 อีกชนิดหนึ่งที่พบได้ในเมล็ดแฟลกซ์ซึ่งช่วยบำรุงกระดูก เมล็ดแฟลกซ์ยังช่วยลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร ขณะที่ Lignans ในเมล็ดแฟลกซ์เชื่อกันว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม
ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะเพลิดเพลินไปกับการรับประทานเมล็ดธัญพืช
เราสามารถนำเมล็ดทานตะวันกับเมล็ดฟักทองไปเป็นขนมขบเคี้ยวในยามว่างได้ ขณะที่เมล็ดเจีย, เมล็ดปอ, เมล็ดงาและเมล็ดแฟลกซ์เราก็สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบในอาหารชนิดต่างๆได้ไม่ว่าจะเป็นสลัด, ซอสปรุงรส หรือแม้แต่ช็อคโกแลต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น