ดูไฟปีใหม่ในญี่ปุ่นส่งท้ายปี Japan New Year Illumination 2011
ย่างเข้าเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สาวๆ ชาวโอแอลวางแผนไปพักผ่อนไหนกันหรือยังคะ? ไหนๆ ปีนี้เราก็เหนื่อยกันมาทั้งปี แถมยังมีภัยธรรมาชาติมาซ้ำเติมช่วงสิ้นปี ส่งท้ายปีในปีนี้โอแอลเลยขอชวนสาวๆ ไปเที่ยวดูอะไรสวยๆ วิบวับๆ จรรโลงจิตใจกันค่ะ ใช่แล้ว! เราจะชวนไปดู Illumination หรือการประดับประดาไฟในช่วง Christmas และ New Year เพื่อส่งท้ายปีในญี่ปุ่นกัน!!
เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมของทุกปี เมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นเค้าก็จะเริ่มประดับประดาแสงไฟสว่างไสว ในปีนี้ก็เช่นกันค่ะ ที่ถึงแม้ว่าเมื่อต้นปีชาวญี่ปุ่นต้องเจอกับภัยธรรมชาติ แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็กลับมาเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และสิ่งที่ทุกคนไม่ลืมในปีนี้ก็คือการสร้างสรรค์ความงามของแสงไฟ ไปพร้อมๆ กับการนึกถึงธรรมชาติ นั่นก็คือความพยายามที่จะประหยัดพลังงานไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ
อย่างเช่น งาน Illumination หนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ในปีนี้ ก็คืองานที่ชื่อว่า Megurogawa Minna no illumi 2011 ที่หมายถึง การประดับประดาไฟจากทุกๆ คนที่ริมแม่น้ำ Meguro โดยธีมในปีนี้เค้าจะใช้ไฟสีชมพูทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศให้ริมแม่น้ำ Meguro ที่มีชื่อเสียงเรื่องในยามซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ถูกประดับด้วยแสงไฟสีชมพูกลายเป็นซากุระบานในหน้าหนาว... วิ้วว โรแมนติกใช่มั้ยหละคะ!!
สาเหตุที่งานนี้เรียกว่าเป็น "การประดับประดาไฟจากทุกๆ คน" ก็เพราะว่า พลังงานที่ใช้ในการประดับไฟทั้งหมดเป็นพลังงานที่ผลิตขึ้นมาเองในท้องถิ่น โดยเป็นพลังงานทดแทน Bio Diesel ที่ทำมาจากน้ำมันที่เหลือทิ้งจากการทำอาหารของบ้านเรือนและธุรกิจในท้องถิ่นแถวนั้น ซึ่งเค้ารวบรวมกันมาได้หลายพันลิตร แทนที่จะทิ้งไป ก็เอามาแปรรูปเป็นพลังงานที่สร้างความสวยงามในช่วงสิ้นปีได้โดยไม่เดือดร้อนธรรมชาติค่ะ
กลับมาที่เรื่องสถานที่ที่จัดงาน Illumination ประดับประดาไฟเด่นๆ ในช่วงสิ้นปีนี้ ที่จริงเรียกว่าแทบจะทุกที่เลยก็ว่าได้ แต่วันนี้โอแอลขอคัดเอางานที่ไม่ว่าใครไปมาแล้วขอคอนเฟิร์มว่าเจ๋งสุด สวยสุดขีด เทพสุดยอด (พอๆๆ เข้าเรื่องซะที!) เอามาแชร์ให้ชาวโอแอลกันค่ะ
Kobe Luminarie
งานที่จัดต่อเนื่องกันมาปีนี้เป็นปีที่ 17 แล้วค่ะ อันที่จริงแล้วการประดับประดาไฟใน Kobe Luminarie นี้ไม่ได้เป็นงานเฉลิมฉลอง แต่เป็นความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและรัฐบาลอิตาลี แรกเริ่มนั้นเป็นการจัดขึ้นเพื่อเยียวยาจิตใจผู้ที่รอดชีวิตและระลึกถึงผู้ที่เสีบชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแถบตะวันตกของญี่ปุ่นเมื่อปี 1995 แต่ละปีจะมีคนเข้าชมงานนี้มากถึง 3-5 ล้านคน (ดังนั้นจะไปชมความงามที่นี่ต้องเตรียมฟิตที่จะเจอคลื่นมหาชนให้ดีค่ะ) และสำหรับธีมในปีนี้เค้าใช้ชื่อว่า "แสงแห่งความหวัง"ค่ะ
Period : 1-12 ธันวาคม 2011
Place : Old Foreign Settlement and Higashi-Yuenchi (Chuo-ku, Kobe-shi) ลงสถานี JR Hanshin Motomachi
Admission : ฟรี แต่เพื่อเป็นการสบทบทุนให้งานสามารถดำเนินต่อไปได้ทุกปี ควรบริจาคอย่างน้อย 100 เยน
Place : Old Foreign Settlement and Higashi-Yuenchi (Chuo-ku, Kobe-shi) ลงสถานี JR Hanshin Motomachi
Admission : ฟรี แต่เพื่อเป็นการสบทบทุนให้งานสามารถดำเนินต่อไปได้ทุกปี ควรบริจาคอย่างน้อย 100 เยน
Tokyo Dome City Winter Festival
ชื่อของ Tokyo Dome นอกจากจะเด่นดังเรื่องของการแข่งกีฬาแล้ว รอบๆ โตเกียวโดม เค้ายังมี Tokyo Dome City ที่เป็นทั้งแหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหาร รวมไปถึงสวนสนุก ให้อยู่กันได้ทั้งวัน พอตกเย็นก็สามารถมาดื่มด่ำกับความงามของ Winter Festival ที่ปีนี้จัดภายในธีม "ดอกไม้และแสงไฟ" ที่ผสานสีสันของดอกไม้นานาพรรณกับแสงไฟเข้าด้วยกัน การประดับไฟที่นี่เรียกว่านานกว่าที่อื่นๆ มากค่ะ เพราะยาวไปถึงวาเลนไทน์โน่นเลยค่ะ
Period : 10 พฤศจิกายน 2011 -14 กุมภาพันธ์ 2012
Place : Tokyo Dome City ลงสถานี Metro / Korakuen หรือ JR Suidoubashi เดินต่อประมาณ 7-10 นาที
Admission : ฟรี
Place : Tokyo Dome City ลงสถานี Metro / Korakuen หรือ JR Suidoubashi เดินต่อประมาณ 7-10 นาที
Admission : ฟรี
Showa Kinen Park, Winter Vista Illumination
งานที่นี่ก็สวยฮือฮาเช่นกันค่ะ เพราะประดับไฟกันแบบจริงจัง ด้วยความที่ได้เปรียบเพราะเป็นสวนอยู่แล้ว ก็เลยมีต้นไม้ใหญ่มากมายให้ประดับไฟ รวมถึงสวนโล่งกลางแจ้ง ที่บรรดาไฟเล็กไฟน้อยจะวิบวับกันอยู่เต็มพื้นไปหมด นอกจากนั้นยังมีดาวเด่นเป็นต้นคริสมาสต์ที่ทำจากแก้วแชมเปญกว่า 6,500 แก้ว นำมาวางเรียงและประดับไฟอย่างอลังการทีเดียว แถมไปเวลาเหมาะยังมีการจุดพลุขึ้นไปวิบวับบนท้องฟ้าสวยงามแบบยกกำลังสองเลยทีเดียว
Period : 3 -25 ธันวาคม 2011
Place : ลงสถานี JR Tachikawa เดินต่อประมาณ 5-10 นาที
Admission : ผู้ใหญ่ 400 เยน (อายุมากกว่า 65 ปี 200 เยน)
Place : ลงสถานี JR Tachikawa เดินต่อประมาณ 5-10 นาที
Admission : ผู้ใหญ่ 400 เยน (อายุมากกว่า 65 ปี 200 เยน)
สาวๆ โอแอลตัดสินใจได้กันหรือยังคะ ว่าจะไปดูไฟสวยๆ ที่ไหนดี สาวๆ ที่พกคนรู้ใจไปด้วยเที่ยวที่ไหนก็คงสวยไปหมด ส่วนใครไปกับครอบครัวหรือไปกับแก๊งเพื่อน (โสด) เลือกให้ดีนะคะ เพราะว่าทุกที่จะเต็มไปด้วยคู่รัก ไฟสวยๆ อาจจะช่วยลดความร้อนไฟในตาไปได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ อิอิ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น