หลักสูตร สถาบันสอนภาษา Lingo

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

มาทำ "Banoffee Pie" กันเถอะ

มาทำ "Banoffee Pie" กันเถอะ


bloggang



บานอฟฟี่พาย มีหลากหลายแบบค่ะ

วันนี้แจ๊คจะพามาทำในฉบับของแจ๊คที่ทำบ่อยมาก

จะพาทำ "ทีละขั้น ทีละตอน เข้าใจง่าย"
ทำกี่ครั้งก็อร่อยทุกครั้ง อิอิ

แจ๊คมีเคล็ดลับในการทำให้ขนมอยู่คงตัว
จะมาเฉลยตอนจบนะจ๊ะ มาดูกันเลยย

....

ฐานที่ 1 แครกเกอร์

ส่วนประกอบ มีดังนี้
1. แครกเกอร์ยี่ห้อใดก็ได้ หรือจะเป็นโอริโอ้ก็ได้  1 ห่อ
2. เนยละลาย  100 กรัม
3. น้ำตาลทรายละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือ  1 หยิบมือ

ขั้นตอนมีดังนี้
1. นำแครกเกอร์ใส่ถุง

2. บดให้ละเอียดเลยนะคะ (เหมือนในรูปตัวอย่าง)


3. นำแครกเกอร์ที่บดละเอียดเทใส่อ่างผสม
ตามด้วยเนยละลาย เกลือ น้ำตาลทรายป่น

4.คลุกเคล้าให้เข้ากันแบบนี้ ใช้ได้แล้วค่ะ


5. กรุลงในพิมพ์ที่ถอดก้นได้ 
( หรือถ้าใครไม่มีพิมพ์ สามารถใช้แก้ว ถ้วย ต่างๆแทนได้ค่ะ
เวลากินก็ใช้ช้อนตักได้เลยค่ะ )

6. กดให้แครกเกอร์แน่นๆเลยนะคะ

เสร็จแล้วนำเข้าแช่ไว้ในตู้เย็น ประมาณ ครึ่งชั่วโมง

หลังจากนั้นมาทำส่วนที่ 2กันต่อค่ะ

ฐานที่ 2 ช๊อคโกแลต


ส่วนประกอบมีดังนี้
1.นมข้นจืด  1 ถ้วย (200 กรัม)
2.น้ำตาลทราย  120 กรัม
3.แป้วข้าวโพด  4 ช้อนโต๊ะ
4.ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
5. กลิ่นวนิลา  3  หยด
6.เจลาตินผง   1 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ  1 หยิบมือ

**ใครชอบกลิ่นกาแฟ อาจผสมกาแฟเข้าไปเพิ่มด้วยก็ได้ค่ะ**

(ถ้าใครทำฐานโอริโอ้ จะทำขั้นนี้หรือไม่ทำก็ได้นะคะ เพราะโอรีโอ้มีความขมอยู่แล้วในตัว )

ขั้นตอนการทำ

1. เทน้ำเปล่าลงไปในหม้อ นำไปตั้งไฟอ่อน
วางอ่างผสม ใส่นมข้นจืด ไว้ด้านบน ให้นมพออุ่นๆ

(ใช้ไอน้ำจากในหม้อเป็นตัวทำให้นมอุ่นนะคะ  หากใช้ไฟจากเตาโดยตรงเลย จะทำให้นมเดือดและไหม้ได้ง่ายค่ะ)

2. ใส่ผงโกโก้ แป้งข้าวโพด เจลาติน เกลือ 
น้ำตาลทราย กลิ่นวนิลาลงไป 


3. หลังจากที่เทส่วนผสมลงไปทั้งหมด ก็คนให้เข้ากัน จนส่วนผสมข้น

4. เสร็จแล้วยกลงจากเตาเลยค่ะ พักให้อุ่น

5. พออุ่นได้ที่แล้ว นำแครกเกอร์ที่แช่เย็นออกมา
 แล้วเทช๊อคโกแลตลงไปในฐานที่ 1 (ดังรูป)

6. เกลี่ยให้ทั่วจนปิดหน้าแครกเกอร์

นำเข้าตู้เย็น แช่ต่ออีกครึ่งชั่วโมง


หลังจากนั้นมาทำส่วนผสมของคาราเมลกัน ใช้เวลาไม่นานค่ะ 
คาราเมลจะช่วยเพิ่มความ หอม หวาน อร่อย 


ส่วนประกอบมีดังนี้
1. นมข้นหวานชนิดใด้ก็ได้   1/2 ถ้วยตวง
2.วิปปิ้งครีม   2/3  ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทรายแดง  1/2 ถ้วยตวง
4. เจลาตินผง 1 ช้อนโต๊ะ
5.เกลือ 1 หยิบมือ
6.กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา 

ขั้นตอนการทำ

1. เทนมข้นหวานลงในหม้อที่ตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อยๆ

2. ถ้ามันเดือดปุดๆ (ดังรูป) ก็เบาไฟลงค่ะ


3.ค่อยๆเทวิปปิ้งครีมลงไป ระหว่างเทก็เคี่ยวไปด้วยนะคะ

4. พอส่วนผสมเข้ากัน (ในรูป) 
ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป แล้วเคี่ยวจนน้ำตาลละลาย


5. ใส่เจลาตินลงไป ค่อยๆใส่นะคะ

6. เคี่ยวจนส่วนผสมข้น


7. หยดกลิ่นวนิลาลงไปค่ะ

8. เคี่ยวจนส่วนผสมเข้ากัน ก็เป็นอันเสร็จเเล้วค่ะ ^^ 
เอาลงจากเตา พักให้อุ่น

แปปเดียว เห็นไหมคะ ไม่ยุ่งยากเลย

ฐานที่ 3 กล้วย
 ส่วนประกอบมีดังนี้

1.กล้วย  3 ลูก
2. น้ำเปล่า
3. มะนาว   1ลูก

ขั้นตอนการทำ

บีบน้ำมะนาวลงไปในน้ำเปล่า


1. หันกล้วยเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วลงไปแช่ในน้ำมะนาว

**วิธีนี้จะช่วยให้กล้วยสีไม่คล้ำขึ้นค่ะ**

2. จากนั้นจัดเรียงกล้วยลงบนฐานช๊อคโกแลต



ฐานที่ 4 คาราเมล

นำคาราเมลที่เตรียมไว้ ราดลงบนฐานกล้วยค่ะ


พอราดคาราเมลหมด ก็นำไปแช่ตู้เย็นต่อ

และขั้นสุดท๊าย ท้ายสุด

ฐานที่ 5 วิปปิ้งครีม
ส่วนประกอบมีดังนี้

1. วิปปิ้งครีม   1 ถ้วย (200 กรัม)
2. น้ำตาลทรายป่น   1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความหวานได้นะคะ)
3. เจลาตินละลาย   3 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. เทวิปปิ้งครีมลงในอ่างสเตนเลส
2.ใช้เครื่องตีแบบมือถือ ตีวิปปิ้งครีมด้วยความเร็วปานกลาง


3. ตีไปสักพักจนขึ้นฟูดี (ในรูปแจ๊คหยุดเพื่อถ่ายเก็บภาพค่ะ) 
เพื่อนๆไม่ต้องหยุดนะคะ ตีไปเลย

จากนั้น ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายป่นลงไป ตามด้วยเจลาตินค่ะ

4. เมื่อตีต่ออีกสักพักวิปปิ้งครีมขึ้นฟูสวยงาม (ในรูป) ใช้ได้แล้วค่ะ


5. นำวิปปิ้งครีมใส่ลงในฐานคาราเมล 
ตกแต่งลวดลายตามใจชอบเลยคะ

6. โรยผงโกโก้ตกแต่งด้านบน เสร็จแล้วก็นำไปแช่ตู้เย็น

เสร็จแว๊ววว เหลือแค่รอเวลา (แช่ตู้เย็น 4-5 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ค่ะ)


ปิ้งงงงงง ได้เวลาแล้วล่ะ 
มาดูวิธีการเอาอออกจากพิมพ์กัน

ขั้นตอนการเอาออกจากพิมพ์
คือ "แก้ว" ค่ะ
เป็นตัวช่วยในการเอาออกจากพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย


ขั้นตอนการทำ

1. เพียงแค่เพื่อนๆนำแก้วมา แล้วเอาพิมพ์บานอฟฟี่พายมาวางด้านบนของแก้ว

2. ใช้มีดแซะขอบข้างๆ เพื่อให้หลุดออกได้ง่าย 
แล้วกดตัวพิมพ์ลง (ดังรูป)

เพียงแค่นี้เพื่อนๆก็จะได้บานอฟฟี่พายเสร็จสมบูรณ์
น่ารับประทาน

เสร็จแล้ว ตัดแบ่ง พร้อมเสริฟค่ะ

บานอฟฟี่พาย ชั้นสวยงาม น่าทานเป็นที่สุด


ครบทุกรส อร่อย หวาน มัน  ตัดกันเป็นอย่างดี 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น