หลักสูตร สถาบันสอนภาษา Lingo

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

10 ไลฟ์สไตล์ของคนในยุค Gen Y


10 ไลฟ์สไตล์ของคนในยุค Gen Y


CREDIT: WWW.bangkokbiznews.COM

คนในยุค Gen Y หมายถึง คนส่วนใหญ่ของโลกที่เกิดมาในช่วงปี 2523-2533 ซึ่งจะมีทัศนคติ แนวคิด และอุปนิสัยไปในทิศทางที่แตกต่างจากคนในยุคก่อนหน้า
และที่สำคัญคือ กำลังการซื้อของคนกลุ่มนี้กำลังจะ..สูงขึ้น..สูงขึ้น ผมจึงอยากจะพาคุณผู้อ่านไปดูกันว่า คน Gen Y จะมีไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง? ดังนี้ครับ
หนึ่ง ชีวิตแห่งการ “เคลื่อนที่” (Mobile Life)
คุณผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า “Mobile Life” หรือ “ชีวิต..เคลื่อนที่” กันมาบ้าง ซึ่งหมายถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่กับที่เสมอไป เช่น การทำงานในออฟฟิศตั้งแต่แปดโมงเช้ายันห้าโมงเย็น ก็สามารถเปลี่ยนเป็นการไปท่องเที่ยวและใช้โทรศัพท์มือถือประสานงานหรือสั่งงานแทนได้ ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยี 3G และ Wifi ก็สามารถทำให้ผู้คนในยุคนี้มีชีวิตที่..เคลื่อนที่ไปด้วย..ทำงานไปด้วยได้ 
สอง วัฒนธรรม..จอภาพ (Screen Culture)
อีกคำหนึ่งที่เพิ่งฮิตกันในหมู่คน Gen Y บางกลุ่มก็คือคำว่า “Screen Culture” ซึ่งในที่นี้หมายถึง การที่ผู้คนจะใช้ชีวิตในการทำงานและชีวิตส่วนตัวบนหลายๆ อุปกรณ์ที่มีจอภาพ ได้แก่ หน้าจอทีวี หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอแท็บเล็ต และหน้าจอมือถือ เป็นต้น จึงไม่ต้องห่วงว่า บรรดาผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะรุ่งเรืองมากขนาดไหน?
สาม ชอบสินค้าประเภท DIY (Do-it-yourself) หรือ “คุณ..ทำเอาเอง”
“ค่าแรงวันละ 300 บาท” ได้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของคน Gen Y ในประเทศไทยกล่าวคือ ในอดีตเมื่อจะต้องต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้านและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน คนส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะจ้างวานคนอื่นให้มาทำแทน แต่การขึ้นค่าแรงดังกล่าวก็ทำให้บรรดาช่างที่เกี่ยวข้องหาได้ยากขึ้นเป็นอย่างมาก หรือหากว่าหาได้ก็มักจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงทีเดียว จึงทำให้ต้องหาสินค้าประเภทนี้มาทำด้วยตนเอง
สี่ ชอบร้านค้าปลีกที่มีลักษณะ Formatted Style
นิสัยอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับคน Gen Y ก็คือ ทำอะไรเร็วๆ และจะเร่งรีบไปเสียเกือบจะทุกเรื่อง ด้วยนิสัยดังกล่าวก็จะทำให้คน Gen Y เวลาจะออกไปซื้อของ ก็จะชอบไปร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ที่จัดวางสินค้าง่ายๆ และทำให้นึกออกว่าอยู่ตรงไหนบ้าง? 
ห้า สินค้า..ถูกใจ ราคา..ถูกเงิน “Max Value of Money”
คนในยุค Gen Y มักจะคำนึงถึงคุณภาพในระดับที่ตนเองต้องการ ในราคาที่คุ้มค่าเงินมากที่สุด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ บรรดาโรงแรมระดับ 3 ดาวที่มีแบรนด์ระดับโลก ที่เป็นชื่นชอบของคน Gen Y ไปทั่วโลก ได้แก่ ไอบิซ (iBiz) หรือ เบสท์เว็สเทิร์น (Best Western) แบรนด์เหล่านี้ได้มาตีตลาดโรงแรม 3-4 ดาวของไปไทยไปอย่างมาก เพราะแบรนด์ดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันว่า โรงแรมที่ใช้แบรนด์เหล่านี้จะสะอาด บริการสุภาพ และราคาประหยัด
หก สินค้าประเภท “สอนให้...รวย” 
อย่างที่คุณผู้อ่านได้พอรู้มาบ้างแล้วว่า คนในยุค Gen Y ส่วนใหญ่จะเป็นคนชอบ..รวยเร็ว ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าบรรดาการสัมมนา หนังสือหุ้น หนังสือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือหนังสือสอนรวยอื่นๆ จะขายดิบขายดี นอกจากนั้นธุรกิจขายตรงต่างๆ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าประเภท..สอนให้รวยอีกด้วย 
เจ็ด สินค้าประเภท “Fast Track” 
หากจะทำธุรกิจกับคน Gen Y จะต้องมีแนวความคิดนี้ด้วยนั่นคือ “เร็ว.. เร็ว.. เร็ว..” ดังนั้นบรรดาบริษัทในตลาดฯ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารจานด่วนหรืออาหารส่งด่วน หรือฟาสต์ฟู้ดยี่ห้อต่างๆ จึงเข้าข่ายที่จะมีลูกค้าเป็นคนในยุค Gen Y เป็นจำนวนมาก และจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก..ตามกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของคนในยุคนี้
แปด ชอบให้ตนดูดี “Good Looking” 
อาจกล่าวได้ว่า คนในยุค Gen Y จะเป็นคนที่มีสังคมมากกว่าคนในยุคก่อนๆ เป็นอย่างมาก และเพื่อนๆ ที่คนในยุค Gen Y ก็จะมาทั้งจากเพื่อนที่พบปะกันในชีวิตประจำวัน และเพื่อนที่พบกันในโซเชียลมีเดียหรือการที่ได้พูดคุยกันผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
เก้า ชอบสินค้าประเภท DIH (Do-it-your-Health)
คนในยุค Gen Y เป็นคนรักสุขภาพ โดยจะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพด้วยการทำด้วยตนเองเป็นพิเศษ เช่น การเล่นกีฬา การเข้าฟิตเนส การซื้อวิตามินเสริมอาหาร ฯลฯ นั่นรวมถึงบรรดาเครื่องตรวจวัดต่างๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดอุณหภูมิ เป็นต้น 
สิบ ชอบศึกษาสินค้าจาก “อินเทอร์เน็ต” หรือ “โซเชียลมีเดีย”
ทุกวันนี้เมื่อคนในยุค Gen Y จะซื้อสินค้าประเภทไอที หรือสินค้าที่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ (Discretionary Goods) เช่น รถยนต์ ทีวี เป็นต้น คนในยุค Gen Y ก็จะหาข้อมูลจำนวนมหาศาลจากอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดียก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริง
นอกจากนั้นผมยังชอบคำพูดของคุณอดิเรก ศรีประทักษ์ ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ ที่ได้กล่าวถึงค่านิยม 6 ประการ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนในยุค Gen Y ดังนี้ครับ... หนึ่ง คำนึงถึงปรัชญา 3 ประโยชน์เป็นหลัก ได้แก่ ประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท สอง ทำอะไรต้องทำด้วยความรวดเร็ว และมีคุณภาพ สาม ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย สี่ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกคนต้องเตรียมความพร้อม และยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ ห้า มุ่งสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซึ่งเราเรียกว่านวัตกรรม ให้ทุกคนในองค์กรรู้จักสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หก มีคุณธรรม ความซื่อสัตย์ และรู้จักตอบแทนบุญคุณ หวังว่า...จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ


เข้าใจพฤติกรรม Generation Y


เข้าใจพฤติกรรม GENERATION Y 



credit: mashingupfiles.com 


ใครเป็น Gen Y บ้างยกมือขึ้น…Generation Y ที่เรียกๆ กันนั้นพูดถึงกลุ่มคนที่ตอนนี้อายุ 18 – 28 ปีค่ะ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่นักการตลาดต้องทำความเข้าใจให้มากๆ ทีเดียว เพราะถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักในอนาคตอันใกล้นี้ กลุ่ม Gen Y นี้ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า the Net Generation เพราะเติบโตมาพร้อมๆ กับการเติบโตของโลกอินเตอร์เน็ต เทคโนโลยีและสื่ออินเตอร์เน็ตจึงมีบทบาทสำคัญมากๆ สำหรับคนกลุ่มนี้ค่ะ
ลองมาดูพฤติกรรมการเสพสื่อของกลุ่ม Gen Y กันค่ะ เป็นการรวบรวมข้อมูลมาจากกลุ่มคน Millennials ในสหรัฐฯ ของเว็บไซต์ Flowtown ค่ะ ที่น่าสนใจก็คือว่าตั้งแต่ปี 2005 กลุ่ม Gen Y มีการใช้ Social Media ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว จาก 7% ในปี 2005 มาเป็นถึง 75% เมื่อต้นปีที่ผ่านมาค่ะ! และถึง 5 ใน 10 ของคนกลุ่มนี้จะเข้าใช้บริการเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์มากกว่า 1 ครั้งต่อวัน ซึ่งไม่น่าแลกใจว่าทำไม Social Networks ถึงได้กลายเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญในการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ค่ะ
แต่ยังไงก็อย่าลืมทีวีนะคะ เพราะก็ยังเป็นสื่อที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งสำหรับกลุ่ม Gen Y อยู่ด้วยความนิยม 65% ค่ะ และตามมาติดๆ ด้วยสื่ออินเตอร์เน็ต 59%

ข้อคิดให้กำลังใจเมื่อทำธุจกิจเเล้วประสบปัญหา


ข้อคิดให้กำลังใจเมื่อทำธุจกิจเเล้วประสบปัญหา 


CREDIT: WWW.inquity.com

ทุกครั้งที่ธุรกิจประสบกับความล้มเหลวหลายคนมักจะนึกท้อแท้ แต่ทว่าความท้อแท้ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้อีกครั้ง โอกาสนี้ Incquity จึงขอรวบรวมข้อคิดให้กำลังใจดีๆ เมื่อธุรกิจประสบความล้มเหลวมาฝากผู้ประกอบการทุกท่านกัน ดังนี้

ความล้มเหลวที่ผู้ประกอบการเจอในวันนี้อาจจะดูรุนแรง อาจจะยากเกินกว่าที่คุณจะรับไหว จนบางครั้งทำให้คุณต้องเสียน้ำตาไปมาก แต่โปรดจงเชื่อเถอะว่ายังมีผู้คนที่เขาลำบากกว่าคุณอีกเป็นจำนวนไม่น้อย หลายคนแม้แต่บ้านก็ยังไม่มีให้กลับเพราะพวกเขามีชีวิตเพียงแค่วันนี้เท่านั้นส่วนพรุ่งนี้เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องให้โชคชะตาเป็นผู้ตัดสิน ดังนั้นการที่ผู้ประกอบการมายืนอยู่ในจุดนี้ได้นั้นนับว่าคุณมีความโชคดีมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว ผู้ประกอบการจึงควรที่จะต้องใช้โอกาสที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง

ขอให้ผู้ประกอบการมองโลกอย่างคิดบวก และถือซะว่าความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเป็นประสบการณ์ดีๆที่จะช่วยสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เพราะไม่มีนักธุรกิจคนไหนที่จะสามารถยืนอยู่บนยอดหอคอยงาช้างได้โดยที่ไม่เคยใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตามาก่อนแน่นอน ประสบการณ์เรื่องเลวร้ายที่ต้องพบเจอในวันนี้จึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่าต่อการทำธุรกิจในอนาคตด้วย

ถ้าเปรียบความล้มเหลวเป็นมุมมืดโปรดจงเชื่อเถอะว่าอีกไม่นานแสงสว่างก็จะต้องเข้ามาทำหน้าที่ของมันทดแทนในอีกไม่ช้า ซึ่งอย่างน้อยมันก็คือสิ่งดีๆที่ทำให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่ในวันรุ่งขึ้นเสมอ ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังคงขึ้นในทิศบูรพาโอกาสในการเริ่มต้นทำธุรกิจก็ยังคงมีอยู่เสมอมิเปลี่ยนแปลง

เป็นเรื่องจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าท้องฟ้าจะสวยงามที่สุดก็ต่อเมื่อมันได้ผ่านช่วงมรสุมพายุฝนอันหนักหน่วงมาแล้ว เปรียบได้เช่นเดียวกันกับการทำธุรกิจหากผู้ประกอบการล้มเหลวด้วยพิษมรสุมพายุทางเศรษฐกิจหรือจะด้วยอะไรก็ตามแต่ที่พัดกระหน่ำโหมเข้าใส่อย่างหนักหน่วง แต่สุดท้ายแล้วปัญหาดังกล่าวก็จะผ่านพ้นไปได้ในที่สุด ซึ่งรับรองว่าในอนาคตธุรกิจของคุณจะต้องอยู่ในขาขึ้นอย่างแน่นอนถ้าหากในตอนนี้คุณอยู่ในจุดที่ต่ำสุด ซึ่งมันเป็นสมการง่ายๆที่เด็กประถมก็คิดได้

หากผู้ประกอบการรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าขอจงหยุดพักเสียก่อน แต่การหยุดพักของคุณจะต้องเป็นการหยุดเพื่อชาร์ตไฟและคิดทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญการหยุดพักนี้จะต้องเป็นแค่การหยุดพักชั่วคราวและมีกำหนดในการหวนคืนสังเวียนธุรกิจใหม่อีกครั้ง เพื่อลองฟันฝ่าอุปสรรคหรือข้อจำกัดดูอีกสักยกหนึ่งด้วยรอยยิ้มและหัวใจของนักสู้ผู้ไม่แพ้

การที่ผู้ประกอบการล้มเหลวในวันนี้นั่นไม่ใช่ตราบาปบอกที่บ่งบอกว่าคุณจะไม่ประสบความสำเร็จในอนาคต เพราะการที่ธุรกิจต้องล้มพับอาจจะมีปัจจัยแวดล้อมที่เข้ามาส่งผลกระทบหลายอย่าง ดังนั้นโอกาสในการทำธุรกิจครั้งต่อไปผู้ประกอบการจะต้องคิดและทำให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประเภทที่คิดและวางแผนสูงทะลุฟ้าไปถึงดวงจันทร์ได้ก็ยิ่งดี เพราถึงอย่างไรถ้าพลาดขึ้นมาคุณก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาวอันเปล่งประกาย

ข้อคิดคำคมเหล่านี้ถึงแม้บางคนอาจจะมองว่ามันเป็นเพียงแค่นามธรรมที่สวยหรูแต่เพียงเท่านั้นและไม่ได้มีส่วนช่วยทำอะไรให้มันดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงมันคือกุศโลบายที่เอาไว้ซ่อมแซมความรู้สึกและหัวใจของมนุษย์ ซึ่งผู้ที่เคยผ่านการทำธุรกิจมาแล้วจะรู้ว่าเรื่องของหัวใจมีความสำคัญมากขนาดไหน ผู้ประกอบการไม่ควรที่จะพลาดด้วยประการทั้งปวงในการหาข้อคิดดีๆเป็นยาชูกำลังในการทำธุรกิจ

บทเรียนราคาแพงจากนักธุรกิจที่เคยพลาด


บทเรียนราคาแพงจากนักธุรกิจที่เคยพลาด


CREDIT: WWW.INQUITY.COM


การฟังคนที่ประสบความสำเร็จเล่าให้เราฟังว่าเขาทำได้อย่างไรนั้นเป็นแรงบันดาลใจที่ดี ส่วนคนที่ “ประสบความล้มเหลว” ล่ะ เขาบอกอะไรเราได้บ้าง?
ไม่เลวเลยถ้าเรานึกดูดีๆ จะพบว่าคนที่ประสบความล้มเหลวมาก่อนก็เล่าอะไรให้เราฟังได้หลายอย่างเหมือนกัน หลายครั้งเป็นวิธีที่เขาเลือกใช้ผิด หลายครั้งเกิดจากทัศนคติที่ผิด และหลายครั้งเกิดจากความดื้อรั้นส่วนตัวที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเสียเอง สิ่งเหล่านี้เราอาจรวมเรียกก็ได้ว่ามันคืออุทาหรณ์สอนใจ
สำหรับคำแนะนำของเราในการอ่านตอนนี้ก็คือ “ถ้าคุณกำลังคิดสอดคล้องกับบทความนี้ละก็ ระวัง!”

จริงๆ มันดีไม่ใช่หรือที่จะเป็นคนมีความมั่นใจ? ใช่ เมื่อเราเป็นฟรีแล้นซ์ เมื่อเราทำงานคนเดียวหรือเมื่อบริษัทยังเป็นทีมเล็กๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น
ผู้ประกอบการที่ดีขณะวิ่งแข่งจะต้องเหลือบมองลู่ข้างๆ ไปด้วยเสมอ
แต่ถ้าพูดถึงระดับผู้ประกอบการแล้ว การอยู่กับข้อมูลและความเป็นจริง และการแสดงออกให้พนักงานที่เห็นเราเป็นเหมือนกัปตันเรือรับรู้ได้ว่า เราได้ตัดสินใจหันหัวเรืออย่างมีทิศทางนั้นเป็นเรื่องจริงจังที่ละเอียดอ่อน เกินกว่าจะใช้แค่แรงบันดาลใจมาเป็นตัวตัดสิน
ไม่ว่าวิสัยทัศน์ของบริษัทเราเขียนไว้อย่างสง่างามอย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าไม่ใช่มีเราคนเดียวที่สร้างสรรค์ บางคนอาจคิดได้เท่าเรา บางคนอาจคิดได้มากกว่าเรา ผู้ประกอบการที่ดีขณะวิ่งแข่งจะต้องเหลือบมองลู่ข้างๆ ไปด้วยเสมอ

อะไรที่ครึ่งๆ กลางๆ ย่อมไม่ประสบผลสำเร็จ หากเราไม่สามารถหาจุดร่วมระหว่างสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบริษัท (ซึ่งหมายรวมถึงพนักงานด้วย) และอะไรคือความสุขของเราได้
หลายๆ ครั้งผู้บริหารระดับสูงเสียทั้งเวลา เงินทุน และกำลังที่มีอยู่ไปกับสิ่งที่ชื่นชอบ แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่ส่งผลดีต่อบริษัทเลย โดยหลงคิดไปว่าสิ่งนั้นจะสร้างให้เกิดสิ่งดีๆ ต่อบริษัท หรืออาจคิดไปเสียว่าสิ่งนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายแก่บริษัทเสียหน่อย
Jim Balsilie
Photo courtesy of AP
อดีตหนึ่งใน CEO ของ RIM (Research In Motion) บริษัทผู้ผลิต Blackberry โดยหน้าที่ของเขานั้นคือสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในตลาดสมาร์ทโฟน เขาลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความบกพร่องในหน้าที่ หลังจากที่ทำให้หุ้นบริษัทร่วงลงไปถึง 70% ในเวลาแค่เพียงหนึ่งปี เพราะส่วนแบ่งการตลาดของ Blackberry ในสหรัฐฯ ร่วงลงจาก 44% เหลือเพียงแค่ 9% ภายในปีเดียวหลังจากแอปเปิ้ลเปิดตัวไอโฟนในปี 2007 ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากการที่ RIM ปรับตัวเพื่อเข้ากับเกมการตลาดแบบใหม่ช้าเกินไป
ระหว่างนั้น RIM กำลังทำอะไรอยู่? คำตอบคือ Jim กำลังวุ่นวายอยู่กับการพยายามซื้อทีมฮ็อคกี้...
ความพยายามทุ่มทุนซื้อทีมฮอกกี้ของ Jim เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2006 ด้วยเงินถึง 185 ล้านเหรียญ พอมาถึงเดือนพฤษภาคมปี 2007 หลังจากที่ไอโฟนเปิดตัวมาได้สักพักแล้ว แทนที่จะรับมือกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างไอโฟน เขาก็ยังคงวุ่นวายอยู่กับทีมฮอกกี้
ถ้าเราไม่เผลอเรอให้คุณค่ากับความสุขส่วนตัวมากจนเกินไป ชีวิตของเราก็จะยังคงมีสมดุลได้ตลอดเวลา
สุดท้ายแล้ว ปี 2010 บริษัท RIM ตื่นมาพบกับความเป็นจริงว่าแบล็คเบอร์รี่กำลังตกเป็นรองไอโฟนอยู่หลายด้าน และต้องเจอกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างระบบปฏิบัติการ Android ของ Google ที่มีพันธมิตรเป็นมือถืออยู่อีกหลายๆ ยี่ห้อ สุดท้าย RIM จึงตัดสินใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจของตัวเองบ้างด้วยการซื้อบริษัท QNX เพื่อมาเสริมทัพให้กับผลิตภันฑ์ แต่การตัดสินใจนั้นสายเกินไปแล้ว
หาก Jim ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องความชอบส่วนตัวเรื่องฮ็อคกี้ของเขาจนเกินไป ด้วยฐานลูกค้าแต่เดิมที่นำหน้าไอโฟนอยู่หลายช่วงตัว บางทีตอนนี้ทุกอย่างอาจไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้ และเช่นเดียวกันถ้าเราไม่เผลอเรอให้คุณค่ากับความสุขส่วนตัวมากจนเกินไป ชีวิตของเราก็จะยังคงมีสมดุลได้ตลอดเวลา

ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงนั้นมักจะถูกคาดหวังไว้สูงเพราะต้องเป็นตัวแทนของบริษัท ทำให้ต้องรักภาษาภาพลักษณ์เอาไว้ด้วยคำพูดเช่น เรารับมือได้ มีวิธีแก้เรื่องนี้ ทุกอย่างยังไปได้สวย ฯลฯ
วิธีคิดเช่นนี้หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง จะทำให้คุณมั่นใจจนเกินไป ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าเข้าใจปัญหาหรือวิธีแก้หรือไม่ อย่างที่เคยเกิดกับ Carol Bartz ของ Yahoo
Carol Bartz
Photo courtesy of Reuters/AP
Bartz เชื่อเสมอว่าเธอมีวิธีจัดการปัญหาของบริษัท แม้ว่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์ด้านธุรกิจอินเตอร์เน็ตมาก่อนเลย สื่อต่างๆ ล้วนชื่นชอบในความมั่นใจที่แสนจะแข็งกร้าวตั้งแต่การประชุมครั้งแรกของเธอ
สองเดือนหลังจากนั้น เธอได้พบกับ Jack Ma เจ้าของเว็บไซต๋ Alibaba ขณะนั้น Yahoo ถือครองหุ้นของ Alibaba อยู่ถึง 40% และคิดว่าการปลดชื่อ Alibaba ออกให้เหลือแต่เพียง Yahoo ในตลาดจีนคงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ทว่า เธอยังไม่รู้จัก Alibaba และอินเตอร์เน็ตในประเทศจีนดีพอ ความประมาทของเธอทำให้ตัดสินใจทำสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดต่อ Jack Ma โดย Bartz ต้องการปลด Jack Ma ออกจากตำแหน่งเพื่อมอบความรับผิดชอบของ Alibaba ทั้งหมดให้กับ Yahoo China ต่อหน้าบรรดาผู้บริหาร ผลของการตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง Bartz และ Ma ไม่มีทางเยียวยาได้
เธอถูกไล่ออกเมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา บรรดาบอร์ดของทาง Yahoo ได้รู้ตัวแล้วว่า พวกเขาเลือกผู้บริหารผิดคน แถมเสียเวลามาถึงสองปีกว่า โดยผลลัพธ์ที่ได้กลับมาเลวร้ายมาก
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทเรียนจากความผิดพลาดและคุณลักษณะที่ควรหลีกเลี่ยงในนักธุรกิจเท่านั้น อ่านต่อ “เรียนรู้จากนักธุรกิจที่น่าจะประสบความล้มเหลว” ตอนที่ 2 เร็วๆ นี้

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คำคมภาษาอังกฤษโดนใจ พร้อมเเปลไทย


คำคมภาษาอังกฤษโดนใจ พร้อมเเปลไทย


CREDIT: WWW.OKNATION.NET

Always concentrate on how far you've come,
Rather than how far you have to let go

จงสนใจว่าคุณมาได้ไกลแค่ไหน
มากกว่าสนใจสิ่งที่คุณเสียไปเพื่อให้มาถึงจุดนี้


Once upon a time
Love and friendship met
Love : Why do you exist when I already exist?
Friendship: To put a smile where you leave tears.

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ความรักและมิตรภาพได้มาพบกัน
ความรัก : ทำไมเธอถึงเกิดขึ้น ในเมื่อโลกนี้มีฉันแล้ว
มิตรภาพ : เพื่อทำให้ทุกคนได้ยิ้มอีกครั้ง เมื่อคุณทำให้คนเสียน้ำตาไงล่ะ

Friends make the bad times good
And the good times unforgettable.

เพื่อนคือคนที่ทำให้ช่วงเวลาเลวร้าย กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ดี
และทำให้ช่วงเวลาดี ๆ เป็นสิ่งที่น่าจดจำ


Life is about the people we meet
And things we create with them.
So let us go out and start creating,
Life is too short to be spent alone.

ชีวิตนั้นคือการพบปะคนใหม่ ๆ
และสร้างสิ่งดี ๆ ร่วมกัน
เราจึงควรออกไปใช้เวลากับใครสักคน
เพราะชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าจะอยู่กับมันตามลำพัง


Expect nothing and appreciate everything.
จงอย่าคาดหวังสิ่งใด และจงเห็นคุณค่าทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต



Mistakes are sometimes the best memories.
บางครั้งความผิดพลาดก็อาจเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิต


Haters only hate the people they can't have
Or the people they can't be

คนเรามักจะเกลียดชังคนอื่น
เพราะไม่มีอย่างที่คนอื่นมี
และไม่ได้เป็นเหมือนที่คนอื่นเป็นเท่านั้นแหละ


Don't wait for the perfect moment
Take the moment and make it perfect.

อย่ามัวแต่เฝ้ารอช่วงเวลาดี ๆ ในชีวิต
แต่จงสร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้เกิดขึ้นในวันนี้ด้วยตัวคุณเอง


Why do you want to be somebody else
When you could be better
If you just find it in yourself

จะพยายามเป็นคนอื่นไปเพื่ออะไร
ในเมื่อคุณสามารถเป็นสิ่งที่ดีกว่านั้นได้
เมื่อคุณค้นพบตัวเอง


Happiness always look small
While you hold it in your hands,
But let it go,
And you learn at once
How big and precious it is.

ความสุขดูเป็นสิ่งเล็กน้อยเสมอ
เมื่อมันอยู่ในมือของเรา
แต่เมื่อเราปล่อยมันหลุดมือไปแล้ว
เราถึงจะรู้ว่ามันมีค่าและยิ่งใหญ่แค่ไหน


Is it better to lose your pride
to the one you love
Rather than to lose the one you love
with your useless pride?

ดีแล้วหรือ ที่จะเลือกสูญเสียคนที่รักเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง
มากกว่าจะโยนศักดิ์ศรีที่ไม่มีความหมายทิ้งไป เพื่อคนที่คุณรัก


You can't always control who walks into your life.
But you can control which window to throw them out.

คุณกำหนดคนที่จะเข้ามาในชีวิตคุณไม่ได้
แต่คุณเลือกตัดเขาออกไปจากชีวิตของคุณได้


Hope is wishing something will happen.
Faith is believing something will happen.
Courage is making something happen.

ความหวังคือการคาดหวังให้บางสิ่งเกิดขึ้น
ความศรัทธาคือการเชื่อมั่นว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้น
แต่ความกล้าต่างหากคือสิ่งที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น

D.I.Y เสื้อธรรมดาให้กลายเป็นแฟชั้นจ๋า

D.I.Y เสื้อธรรมดาให้กลายเป็นแฟชั้นจ๋า 



credit: 3.bp.blogspot.com, rabbitfoodformybunnyteeth.com, adamsaks 











เนื้อเพลง My Love - Route 94 ft. Jess Glynn




เนื้อเพลง My Love 

Route 94 ft. Jess Glynn 


 www.lingothailand.com



My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine

My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine

Love, stay close to me!
Love, stay close! stay close!
Uuuu, uuuh babe babe!

My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine
My love and my touch
Up above, playing with the one from mine

Love, stay close to me,
Love, stay close! stay close!

Uuuu, uuuh babe babe...






เนื้อเพลงใหมล่าสุด I Choose You - Sara Bareilles



เนื้อเพลงใหมล่าสุด 

I Choose You - Sara Bareilles  


 www.lingothailand.com







Let the bough break, let it come down crashing
Let the sun fade out to a dark sky
I can't say I'd even notice it was absent
'Cause I could live by the light in your eyes
I'll unfold before you
Would have strung together
The very first words of a lifelong love letter
Tell the world that we finally got it all right
I choose
you
I will become yours and you will become mine
I choose
you
I choose
You, yeah
There was a time when I would have believed them
If they told me that you could not come true
Just love's illusion
But then you found me
And everything changed
And I believe in something again
My whole heart
Will be yours forever
This is a beautiful start
To a lifelong love letter
Tell the world that we finally got it all right
I choose
You
I will become yours and you will become mine
I choose
You
I choose
You
We are not perfect we'll learn from our mistakes
And as long as it takes I will prove my love to you
I am not scared of the elements I am underprepared,
But I am willing
And even better
I get to be the other half of you
Tell the world that we finally got it all right
I choose
You, yeah
I will become yours and you will become mine
I choose
You
I choose
You
I choose
You



เนื้อเพลงเพราะ Money on My Mind - Sam Smith




เนื้อเพลงเพราะ 

Money on My Mind - Sam Smith


 www.lingothailand.com





When I signed my deal
I felt pressure
Don't wanna see the numbers
I wanna see heaven
You say, could you write a song for me?
I say, I'm sorry I won't do that happily

When I go home
I tend to close the door
I never wanted more
So sing with me
Can't you see

I don't have
Money on my mind
Money on my mind
I do it for
I do it for the love
[x2]

I do it for the love
I do it for the love

Please don't get me wrong
I wanna keep it moving
I know what that requires
I'm not foolish
Please, can you make this work for me?
Cause I'm not a puppet, I will work against your strings

When I go home
I tend to close the door
I never wanted more
So sing with me
Can't you see

I don't have
Money on my mind
Money on my mind
I do it for
I do it for the love
[x2]

I do it for the love
I do it for the love

When the sun will set
Don't you fret
No I have no money on my mind
No money on my mind
No money on my mind
No I have no money on my mind
[x2]

Just love

Money on my mind
Money on my mind
I do it for
I do it for the love

I don't have
Money on my mind
Money on my mind
I do it for
I do it for the love

I do it for the love
I do it for the love

Headlights MV ใหม่ของแร็ปเปอร์ดัง Eminem



Headlights MV ใหม่ของแร็ปเปอร์ดัง 

Eminem 


 www.lingothailand.com




[Verse 1: Nate Ruess]
Mom
I know I let you down
And though you say the days are happy
Why is the power off, and I'm fucked up?
And mom, I know he's not around
But don't you place the blame on me
As you pour yourself another drink

[Hook: Nate Ruess]
I guess we are who we are
Headlights shine in the dark night I drive on
Maybe we took this too far

[Verse 2: Eminem]
I went in headfirst
Never thinking about who what I said hurt, in what verse
My mom probably got it the worst
The brunt of it, but as stubborn as we are
Did I take it too far?
Cleaning out my closet and all them other songs
But regardless I don't hate you cause ma!
You're still beautiful to me, cause you're my ma
Though far be it for you to be calling, my house was Vietnam
Desert Storm and both of us put together can form an atomic bomb equivalent to Chemical warfare
And forever we can drag this on and on
But, agree to disagree
That gift for me up under the Christmas tree don't mean shit to me
You're kicking me out? It's 15 degrees and it's Christmas Eve (little prick just leave)
Ma, let me grab my fucking coat, anything to have each other's goats
Why we always at each others throats? Especially when dad, he fucked us both
We're in the same fucking boat, you'd think that it'd make us close (nope)
Further away it drove us, but together headlights shining, car full of belongings
Still got a ways to go, back to grandma's house it's straight up the road
And I was the man of the house, the oldest, so my shoulders carried the weight of the load
Then Nate got taken away by the state at 8 years old, and
That's when I realized you were sick and it wasn't fixable or changable
And to this day we remained estranged and I hate it though, but

[Hook]
[Verse 3: Eminem]
Cause to this day we remain estranged and I hate it though
Cause you ain't even get to witness your grandbabies grow
But I'm sorry mama for Cleaning Out My Closet, at the time I was angry
Rightfully maybe so, never meant that far to take it though, cause
Now I know it's not your fault, and I'm not making jokes
That song I no longer play at shows and I cringe every time it's on the radio
And I think of Nathan being placed in a home
And all the medicine you fed us
And how I just wanted you to taste your own, but
Now the medications taken over and your mental states deteriorating slow
And I'm way too old to cry, that shit is painful though
But ma, I forgive you, so does Nathan yo
All you did, all you said, you did your best to raise us both
Foster care, that cross you bare, few may be as heavy as yours
But I love you Debbie Mathers, oh what a tangled web we have, cause
One thing I never asked was where the fuck my deadbeat dad was
Fuck it I guess he had trouble keeping up with every address
But I'd of flipped every mattress, every rock and desert cactus
Own a collection of maps and followed my kids to the edge of the atlas
Someone ever moved them from me? That you could bet your asses
If I had to come down the chimney dressed as Santa, kidnap them
And although one has only met their grandma
Once you pulled up in our drive one night as we were leaving to get some hamburgers
Me, her and Nate, we introduced you, hugged you
And as you left I had this overwhelming sadness come over me
As we pulled off to go our separate paths, and
I saw your headlights as I looked back
And I'm mad I didn't get the chance to thank you for being my Mom and my Dad
So Mom, please accept this as a tribute I wrote this on the jet
I guess I had to get this off my chest, I hope I get the chance to lay it before I'm dead
The stewardess said to fasten my seatbelt, I guess we're crashing
So if I'm not dreaming, I hope you get this message that I will always love you from afar
Cause you're my mama...

[Hook]
[Verse 4: Nate Ruess]
I want a new life
One without a cause
So I'm coming home tonight
Well no matter what the cost
And if the plane goes down
Or if the crew can't wake me up
Well,Just know that I'm alright
I was not afraid to die
Even if there's songs to sing
My children will carry me
Just know that I'm alright
I was not afraid to die
Because I put my faith in my little girl
So I never say goodbye cruel world
Just know that I'm alright
I am not afraid to die

[Hook]
(I wanna new life)