หลักสูตร สถาบันสอนภาษา Lingo

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มารู้จักกับทีวีแบบต่างกัน


แอดมินเชื่อว่า ทีวีมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวัน เลยลองนำกระทู้ดีดี
ในการเลือกใช้และเลือกซื้อทีวีมาฝากกัน ^_^

lg_cinema_3d_smart_tv_digital-tv-smart-tv
หากพูดถึงทีวีที่ขายในปัจจุบันนี้ มีหลายแบบมากๆ อาจแบ่งได้เป็นหมวดประเภทต่างๆคือ
ประเภทจอ ซึ่งมีหลายแบบ เช่น     CRT, LCD TV, LED TV, Plasma TV
crt-tv-screen-display
จอ Crt (Cathode Ray Tubes)    จอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ยุคเก่า จอโค้ง หลังตุง ใช้พื้นที่มาก   ให้กำลังความสว่างของจอมากๆ ถ้ามองนานๆอาจแสบตาได้  มีมุมมองกว้าง ใช้งานตั้งแต่ยุคทีวีขาวดำ จนถึงทีวีสี แต่ปัจจุบันกำลังเลิกเป็นที่นิยม เพราะใช้พื้นที่มาก กินไฟเยอะ และ เพื่อไปซื้อจอที่ถนอมสายตากว่า  ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายเช่น จอ LCD  , LED , Plasma TV
lcd_tv_screen_display
จอ LCD  (Liquid Crystal Display)  ใช้อย่างแพร่หลายมาก โดยแรกเริ่ม จอ LCD จะนิยมเป็นจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งผลิตแบบจอบาง ไม่มีแบบหลังตุงแล้ว  ระดับการแสดงผล ที่สบายตา  ประหยัดพื้นที่ และกินไฟน้อยด้วย แต่การแสดงดีใช่ว่าจะแสดงผลภาพ ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะจอดำๆ จะเห็นบางอย่างที่แสงขาวสว่างอยู่  ชมได้องศาน้อยกว่า CRT  เวลามองข้างๆจะมองไม่ชัด หน้าเราต้องตรงกับหน้าจอเท่านั้น  แต่ตอนนี้ LCD เป็นมาตรฐานยอดนิยมของจอทีวีและจอคอมพิวเตอร์ไปแล้ว


plasma-tv
จอ Plasma TV  เป็นจอทีวีที่สามารถกำเนิดแสงได้เอง กล่าวคือ เพียงแค่ปล่อยแรงดันไฟเข้าไปกระตุ้นเม็ดพิกเซลก็จะส่องสว่างได้เอง  ภาพคมชัดกว่า LCD และการแสดงผลภาพ เร็วๆได้ดีกว่า  สามารถแสดงระดับพื้นสีดำได้ดีกว่า , มุมมองจอภาพที่กว้างกว่า LCD , การแสดงสีเป็นธรรมชาติ   แต่ข้อเสียคือกินไฟ  มีอาการ Burn In ได้ในบางช่วง และไม่สามารถชมทีวีชัดๆได้ในตอนเวลากลางวัน ต้องชมแบบที่มืดๆเวลากลางคืนเท่านั้น

led-tv
LED TV (Light Emitting Diode) ออกมาทดแทนเทคโนโลยี LCD เป็นหลอดไฟขนาดจิ๋ว 3 สีคือ แดง เขียวและน้ำเงิน และแค่ 1 หลอดก็สามารถเปล่งแสงสีได้มากมายตามการผสมสีของแม่สีทั้งสาม ซึ่งเจ้าหลอด LED นี้มีคุณสมบัติพิเศษก็คือกินไฟน้อย แต่กลับให้สีสันที่ชัดเจนมีความสว่างสูง ให้สีดำที่ดำสนิท และมีอัตราการตอบสนองรวดเร็ว  ข้อเสียมีแค่อย่างเดียวคือราคาแพง แต่เรื่องราคาแพงแต่ได้ด้วยภาพคุณภาพสูง LED จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดย LED แบ่งได้เป็น  3 ประเภทย่อยคือ
edge-led
EDGE LED ลักษณะคือคือจะวางหลอด LED ไว้เฉพาะขอบจอเท่านั้น บน ล่าง ซ้าย ขวา เพื่อยิงแสงเข้ามายังกลางจอทีวี  จอจะมีความบางที่มากกว่า ทีวีจอบางทั่วๆ ไป และประหยัดไฟแน่นอน แต่การแสดงสีดำจะดำไม่สนิทเท่าไหร่
direct-led
 Full LED (Direct LED) หน้าจอทีวีจะมีหลอด LED วางอยู่เต็มแผงจอซึ่งจะให้ความคมชัด และความต่างสีของภาพจะเด็ดขาดกว่าแบบแรกเพราะสามารถทำ Local Dimming หรือการปิดสีแบบเป็นกลุ่มได้
led_display
RGB LED ปัจจุบัน LED ชนิดนี้จัดเป็นตัวท็อปของ LED เลยทีเดียว เพราะใช้หลอด LED แม่สีทั้ง 3 คือ RGB (แยก3หลอดๆ ละสี) มาเรียงๆ กันเป็นกลุ่ม ทำให้การแสดงผลภาพและสีชัดเจนมีมิติมากกว่าทุกแบบที่กล่าวมาและแน่นอนว่าแพงกว่าทุกแบบด้วยเช่นกันเนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่า

หมวดประเภทคุณสมบัติทีวี ซึ่งเห็นชัดเจน 2 รูปแบบคือ  Smart TV กับ ทีวี 3มิติ
Samsung's 3D plasma television.
ทีวี 3 มิติ     3D หรือ  3 Dimension คือทีวีที่สามารถเห็นในลักษณะมิติ “ตื้น ลึก หนา บาง ลอย” อย่างเห็นได้ชัดเจน   ถ้าเปรียบเทียบกับภาพ 2 มิติจากทีวีธรรมดาซึ่งเป็นภาพ “แบนๆติดจอ” แล้ว ความสมจริงของภาพ 3 มิตินั้นจะมีมากกกว่า ซึ่งประโยชน์ที่ได้ก็คือ  ความสมจริง และ อรรถรส ในการรับชมที่มากกว่า  เหมือนเรากำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการชมทีวี 3 มิติ นั่นคือ แว่นชมทีวี 3 มิติ   ข้อเสียคือ หากชมโดยไม่ใส่แว่นอาจทำให้เสียสายตาได้  และราคาสูงกว่าทีวีทั่วไป โดยรูปแบบการแสดงผลทีวีแบบ 3มิติ มี 3 แบบคือ
3d-television-2
Anaglyphic 3D หรือ ภาพ 3 มิติแบบแว่น 2 สี (Passive) คือ ทีวีที่คุณสามารถชมภาพ 3มิติได้  ใช้แว่นสีน้ำเงิน แดง ที่เคยใช้ส่องกันในอดีต
3dtv-polarized
Polarized 3D หรือ ภาพ 3 มิติแบบ “สลับเส้นเลขคู่เลขคี่” (3DPassive) ซึ่งหลักการทำงานของมันก็คือ เ ราจะต้องมี 3D TV แบบ Polarized และแว่นตาแบบ Polarized Glasses ซึ่งจะเห็นได้กับทีวีบางรุ่นที่เป็นแว่น3มิติแบบไม่ต้องใส่ถ่าน  และโรงหนัง IMAX ก็ใช้เทคโนโลยีนี้ในการฉายหนังด้วย
glasses-3d-active
Frame Sequential 3D: ส่งเฟรมภาพซ้าย-ขวาสลับกัน (3D Active) ให้ภาพที่มีมิติ และคมชัดสูงเต็มอรรถรถ โดยแว่นสามมิตินั้นต้องใส่ถ่านเพื่อทำงานร่วมกับทีวี3มิติ  ที่แสดงผล 3D Activeอย่างลงตัว
smart-tv
Smart TV หรือทีวีอัจฉริยะ คอนเซปก็คล้ายๆกับสมาร์ทโฟน ที่มีแอพพลิเคชั่นมากมาย ฟังก์ชั่นที่ให้มากกว่าการโทร ส่งข้อความ เป็นการผนวกความสามารถของทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ไว้ในจอเดียวกัน สามารถรับชมสิ่งๆต่างนอกเหนือจากทีวีได้ เช่น เล่นเกม , ดูวีดีโอ youtube , โพส facebook twitter ,  คุยกับเพื่อนผ่านทาง Skype , อ่านข่าวบนเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ผ่านทางทีวี  พร้อมๆกับการรับชมรายการโทรทัศน์ปกติ และบางรุ่นจะรองรับการแสดงภาพแบบ 3มิติได้ด้วย โดยทีวีนี้จะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต  บ้างก็เรียก smart tv เป็น Internet TV คาดว่า ทีวีแบบ สมาร์ททีวี ที่มาพร้อม 3มิติ นี้จะราคาแพงกว่าทีวีที่รองรับเฉพาะแสดงผล 3 มิติ หรือ มีแต่ Smart TV อย่างเดียว

ประเภทการรับสัญญาณโทรทัศน์ 

Analog-vs-digital-television
เปรียบเทียบความคมชัด Digital Tv กับ Analog
นอกจากปัจจัยเรื่องจอ และ การแสดงผลแล้ว ต้องมาคำนึงถึงระบบรับสัญญาณด้วย ซึ่งทีวีทั่วไปที่ตอนนี้รับสัญญาณกันคือ ระบบ Analogue แต่อีกไม่นานเรากำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Digital TV  แล้ว โดยประเทศไทยจะใช้  ระบบDVB-T2 อันเป็นมาตรฐานใหม่ที่พัฒนามาจากแบบเดิม DVB-T  ซึ่ง ทีวี ที่บอกว่าเป็น digital ทั้งหลายที่ขายมาก่อนหน้านี้ รวมถึงที่อยู่ที่บ้านของคุณผู้ชมด้วย ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนละมาตรฐานกับ Digital TV ของไทย ที่กำลังจะประมูล
DVB-T2
มีข่าวดีบ้างสำหรับผู้ที่คิดจะซื้อทีวีใหม่ เพราะเริ่มเห็นทีวีรุ่นใหม่ๆที่รองรับ DVB-T2 กันแล้วจาก 4  ยี่ห้อหลัก….
dvb-t2-set-top-box
แต่ถ้าคุณยังใช้ทีวีแบบเดิมต่อไป ซึ่งไม่รองรับ DVB-T2 ก็ไม่ใช่ปัญหา   เพราะเราสามารถเอาทีวีเครื่องเก่า ไม่ว่าจะแบบใด มาต่อเข้ากับ Set-top box กล่องรับสัญญาณที่รองรับ DVB-T2  เพื่อรับชม Digital TV ได้ ส่วนใครที่ติดทีวีดาวเทียม ก็ยังสามารถรับชมได้ตามปกติ เคเบิ้ลด้วยก็เช่นกัน ยกเว้น ผู้ที่ติดเสาก้างปลา อาจต้องหันมาซื้อ กล่อง Set Top Box ที่ว่านี้มาใช้
 รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล Digital TV หรือ ทีวี ดิจิตอล ได้ที่นี่ 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น